จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังคงเผชิญสถานการณ์น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง หลังการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มระดับ ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำ 12 อำเภอในจังหวัดได้รับผลกระทบหนัก โดยเฉพาะ อำเภอเสนา ซึ่งมีบ้านเรือนจมน้ำกว่า 1 หมื่นครัวเรือน ขณะที่ชาวบ้านโอดน้ำท่วมซ้ำทุกปี คาดกว่าจะคลี่คลายหลังเทศกาลลอยกระทง สถานการณ์ล่าสุด น้ำยังท่วมขยายวงกว้าง เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่ายังคงน่าห่วง หลังจาก เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ปรับเพิ่มการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนในอัตรา 2,300 – 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลล่าสุด มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมรวม 12 อำเภอ 150 ตำบล 907 หมู่บ้าน มีประชาชนเดือดร้อนแล้ว 51,235 ครัวเรือน หลายพื้นที่ยังมีน้ำท่วมสูงและการสัญจรถูกจำกัด โดยเฉพาะถนนสายรองและพื้นที่ทางการเกษตร อำเภอเสนาหนักสุด บ้านกว่า 1 หมื่นหลังจมใต้น้ำ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดขณะนี้คือ อำเภอเสนา มีน้ำท่วมใน 17 ตำบล 135 หมู่บ้าน รวมกว่า 10,784 ครัวเรือน น้ำจากแม่น้ำน้อยและคลองสาขาเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่เกษตร ชาวบ้านต้องย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงและใช้เรือเป็นพาหนะหลักในการเดินทาง ขณะที่หลายครอบครัวเผยว่า สถานการณ์น้ำปีนี้ไม่ต่างจากทุกปีที่ผ่านมา โดยมักท่วมต่อเนื่องนานหลายเดือนกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ บางพื้นที่ต้องอยู่กับน้ำถึง 3 – 4 เดือน และมักจะคลี่คลายหลัง เทศกาลลอยกระทง ผ่านไป เสียงสะท้อนจากชาวบ้าน เรียกร้องแก้ปัญหาระยะยาว ชาวบ้านในพื้นที่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “น้ำท่วมแต่ละครั้ง ทุกอย่างเหมือนถูกแช่ไปกับน้ำ” ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเรือน และทรัพย์สินเสียหาย ขณะที่หน่วยงานท้องถิ่นพยายามเร่งช่วยเหลือและติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดวิกฤต ประชาชนหลายรายเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางมาตรการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ไม่ใช่เพียงการเยียวยาชั่วคราว เพราะน้ำท่วมซ้ำทุกปีและสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตอย่างต่อเนื่อง


