หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย เรียกร้อง “กัน จอมพลัง” ออกมาแถลงต่อสาธารณะ ชี้แจงรายละเอียดเงินบริจาคในมูลนิธิให้โปร่งใส หลังถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องความชัดเจนในการใช้เงิน
วันที่ 23 ตุลาคม 2568 หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรชื่อดัง กล่าวผ่านรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ เรียกร้องให้ กัน จอมพลัง ออกมาชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเงินบริจาคของมูลนิธิ หลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความโปร่งใสในการดำเนินงาน โดยกรรชัยระบุว่าในฐานะผู้ร่วมบริจาคเงินส่วนตัวให้มูลนิธิดังกล่าว ต้องการเห็นข้อมูลชัดเจนว่า เงินที่ได้รับบริจาคถูกนำไปใช้อย่างไร และใครเป็นผู้รับผิดชอบบัญชีขององค์กร
หนุ่ม กรรชัย เปิดใจ เคยบริจาคเงินให้ “กัน จอมพลัง” หลายครั้ง
กรรชัย เปิดเผยในรายการว่า เคยร่วมบริจาคเงินให้กับ กัน จอมพลัง จำนวนหลายครั้ง โดยครั้งแรกบริจาคส่วนตัว 1 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือ และอีก 1 ล้านบาทให้กับมูลนิธิของ ปุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เพื่อช่วยเหลือในภารกิจเดียวกัน ต่อมาเมื่อมีการจัดตั้ง มูลนิธิกัน จอมพลัง ขึ้นอย่างเป็นทางการ เขาได้ร่วมบริจาคเพิ่มเติม 500,000 บาทผ่านมูลนิธิดังกล่าว และอีก 500,000 บาทให้กับ มูลนิธิอีจัน
กรรชัยกล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยสอบถามถึงการใช้จ่ายเงิน เพราะให้เกียรติและเชื่อมั่นในความตั้งใจของผู้ดำเนินงาน แต่เมื่อเกิดข้อครหาขึ้นในปัจจุบัน จึงเห็นว่าควรมีการชี้แจงต่อสาธารณะอย่างโปร่งใส เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือขององค์กรการกุศล
ขอให้ “กัน จอมพลัง” แถลงต่อสาธารณะ ไม่ใช้รายการโหนกระแส
พิธีกรรายการ โหนกระแส ยืนยันว่า จะไม่เปิดพื้นที่ในรายการของตนเพื่อให้ กัน จอมพลัง มาชี้แจงเรื่องนี้ เพราะอาจถูกมองว่าไม่เป็นกลางต่อสังคม โดยเสนอให้คู่กรณีเลือกเวทีอื่น เช่น รายการข่าวของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา หรือการจัดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ เพื่อเปิดเผยข้อมูลให้สังคมได้รับรู้โดยตรง
กรรชัยกล่าวว่า “อย่ามาชี้แจงในรายการโหนกระแส เพราะมันไม่เป็นธรรมกับสังคม ควรเปิดโต๊ะแถลงข่าวให้ชัดเจน ว่าใครเป็นกรรมการ ใครทำบัญชี เงินส่วนไหนเข้าออกอย่างไร เพื่อให้สังคมมั่นใจในความโปร่งใสของมูลนิธิ”
ย้ำเรื่องความโปร่งใสเป็นหัวใจของคนทำงานเพื่อสังคม
กรรชัยย้ำว่า การเป็น “คนดี” ไม่เพียงพอหากขาดความโปร่งใส โดยระบุว่า ตนเองในฐานะผู้บริจาคเงินย่อมมีสิทธิ์รับรู้ว่าเงินถูกนำไปใช้ในลักษณะใด พร้อมแนะให้ กัน จอมพลัง แสดงความรับผิดชอบด้วยการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินของมูลนิธิอย่างละเอียด
เขากล่าวว่า “ผมไม่ได้พูดเพราะโกรธ แต่อยากเห็นความชัดเจน เพื่อให้คนในสังคมมั่นใจว่าใครทำอะไรเพื่อใครจริงๆ การช่วยเหลือสังคมเป็นเรื่องดี แต่ต้องตรวจสอบได้ นั่นคือความน่าเชื่อถือของคนที่ทำงานเพื่อส่วนรวม”