เลขาธิการสหประชาชาติ แสดงความอาลัยต่อการสวรรคตของ “สมเด็จพระพันปีหลวง” ระหว่างหารือกับ “อนุทิน” ในการประชุมสุดยอดอาเซียน พร้อมยกย่องบทบาทไทยในเวทีพัฒนาโลก
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ นายอันโตนิอู กุแตเรซ เลขาธิการสหประชาชาติ แสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้งต่อการสวรรคตของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ระหว่างการหารือทวิภาคีกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของไทย เชื่อว่านับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทย พร้อมยกย่องบทบาทไทยในเวทีระหว่างประเทศด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน
การหารือทวิภาคีในเวทีอาเซียนสุดยอดผู้นำ
การพบปะระหว่าง นายอนุทิน ชาญวีรกูล และ นายอันโตนิอู มานูแอล เดอ โอลิไวรา กุแตเรซ จัดขึ้นในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47 ณ ศูนย์ประชุม KLCC กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นการหารือทวิภาคีครั้งแรกระหว่างผู้นำทั้งสอง หลังนายอนุทินเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ในโอกาสนี้ เลขาธิการสหประชาชาติได้กล่าวถวายความอาลัยอย่างสุดซึ้งต่อการสวรรคตของ สมเด็จพระพันปีหลวง โดยย้ำว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของประชาชนไทยและประชาคมโลก พร้อมชื่นชมบทบาทของไทยในฐานะเจ้าภาพ UN-ESCAP ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำคัญในการขับเคลื่อน เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิก
ไทยย้ำจุดยืนสันติภาพในภูมิภาค
นายกรัฐมนตรีไทยได้แสดงความขอบคุณต่อคำแสดงความอาลัยของสหประชาชาติ พร้อมชื่นชมบทบาทขององค์การในการเผชิญกับความท้าทายระดับโลก โดยทั้งสองฝ่ายยังได้หารือถึงสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาค โดยเฉพาะประเด็นชายแดนไทย–กัมพูชา
นายอนุทินกล่าวถึงการลงนามถ้อยแถลงร่วมระหว่างผู้นำสองประเทศ ว่าเป็นการยืนยันถึงเจตนารมณ์ของไทยที่มุ่งสร้างสันติภาพ ควบคู่กับการปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชน โดยมีเงื่อนไขสำคัญ เช่น การถอนอาวุธหนัก การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การปราบปรามขบวนการ Scammer และการจัดการการรุกล้ำเขตแดน ซึ่งจะนำไปสู่ความสัมพันธ์อันดีและเสถียรภาพระยะยาวในภูมิภาค
ยูเอ็นสนับสนุนแนวทางสันติภาพและการพัฒนา
เลขาธิการสหประชาชาติได้แสดงการสนับสนุนแนวทางของไทย โดยเห็นพ้องว่าปัญหาเขตแดนเป็นเรื่องซับซ้อนที่ควรแก้ไขด้วยสันติวิธี และยึดมั่นตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ในเมียนมาร์ โดยเข้าใจดีว่าไทยในฐานะประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิดย่อมให้ความสำคัญเป็นพิเศษ พร้อมยืนยันว่าสหประชาชาติจะเดินหน้าสนับสนุนการปรองดองและสันติภาพภายในประเทศ
ภายหลังการหารือ นายกรัฐมนตรีไทยยังได้เสนอรายงาน Complementarities Initiative 2.0 เพื่อเสนอรับรองในที่ประชุมสุดยอดอาเซียน–สหประชาชาติ ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน


