สปน. ประชุมเตรียมความพร้อมจัดงานพระราชพิธีถวายพระเกียรติ “สมเด็จพระพันปีหลวง” โดยมีนายกฯ กำกับใกล้ชิด ย้ำประชาชนติดตามข่าวจากกรมประชาสัมพันธ์ และไว้ทุกข์ได้ตามเหมาะสม
วันที่ 27 ตุลาคม 2568 เวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นางยุพา ทวีวัฒนากิจบวร ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารและหัวหน้าหน่วยงานในสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ได้จัดประชุมเตรียมความพร้อมทุกภาคส่วนเพื่อรองรับ งานพระราชพิธีถวายพระเกียรติสมเด็จพระพันปีหลวง โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกำกับการดำเนินงานให้เป็นไปอย่างสมพระเกียรติ พร้อมขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากกรมประชาสัมพันธ์เท่านั้น เพื่อป้องกันความสับสนเกี่ยวกับแนวทางการไว้ทุกข์
เตรียมความพร้อมทุกภาคส่วน จัดตั้งศูนย์ประสานงานพระราชพิธี
นางยุพา ทวีวัฒนากิจบวร กล่าวว่าการประชุมครั้งนี้เป็นการเตรียมความพร้อมของข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธี โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานดำเนินงานให้สมพระเกียรติสูงสุด
ทั้งนี้ มีการจัดตั้งคณะกรรมการ 8 คณะ เพื่อกำกับดูแลในแต่ละภารกิจ รวมถึงจัดตั้ง ศูนย์ประสานงานพระราชพิธี เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ทั้งในส่วนราชการ ภาคีเครือข่าย และประชาชนที่ประสงค์จะมีส่วนร่วมในการถวายความอาลัย ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญของรัฐบาลในการถวายพระเกียรติสูงสุดแด่พระองค์ท่าน
ย้ำติดตามข่าวจากกรมประชาสัมพันธ์ ป้องกันข้อมูลคลาดเคลื่อน
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีข้อมูลบางส่วนที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ซึ่งอาจไม่ถูกต้องหรือคลาดเคลื่อน จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากช่องทางทางการของ กรมประชาสัมพันธ์ และเครือข่ายภาครัฐ เช่น เว็บไซต์เพจทางการ เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับกำหนดการและแนวทางการเข้าร่วมพระราชพิธี
โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง การไว้ทุกข์ ซึ่งข้าราชการจะไว้ทุกข์เป็นเวลา 1 ปี ตามระเบียบราชการ ส่วนประชาชนสามารถไว้ทุกข์ได้ตามความเหมาะสม ไม่ได้ถูกกำหนดให้ต้องไว้ทุกข์ 100 วันตามที่มีข้อมูลเผยแพร่ในบางช่องทาง ทั้งนี้ การไว้ทุกข์ถือเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
สปน. ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมถวายงานอย่างสมพระเกียรติ
นางยุพา กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานและภาคประชาชนที่ให้ความร่วมมือในการเตรียมงานครั้งนี้ โดยย้ำว่าการทำงานของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะศูนย์กลางการประสานงาน ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมถวายงานพระราชพิธีสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทย
