ไทย–กัมพูชาประสานบินโดรนสำรวจจุดปักหมุดชั่วคราวบริเวณหลักเขต 42-43 พร้อมคณะทูตทหาร 18 ประเทศร่วมสังเกตการณ์สถานการณ์ชายแดนและติดตามภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิด
ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว คณะสำรวจจุดปักหมุดชั่วคราวของกัมพูชาเดินทางมาประชุมร่วมกับฝ่ายไทยในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 เพื่อเตรียมบินโดรนสำรวจพื้นที่ตามแนวเส้นขอบเขตบริเวณหลักเขตที่ 42-43 หลังการหารือเมื่อวานยังคงค้างประเด็นการรังวัดพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ ขณะเดียวกันมีคณะผู้สังเกตการณ์ทูตทหารจาก 18 ประเทศเดินทางร่วมติดตามการปฏิบัติงานและตรวจสถานการณ์ชายแดนอย่างใกล้ชิด
ไทย-กัมพูชาประสานเดินหน้าบินโดรนหาจุดปักหมุดชั่วคราว
คณะสำรวจของกัมพูชาได้เดินทางถึงหมู่บ้านหนองหญ้าแก้วเพื่อเข้าร่วมภารกิจบินโดรนวางภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการกำหนดจุดปักหมุดชั่วคราวในพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายอ้างสิทธิร่วมกัน การใช้โดรนช่วยให้การสำรวจมีความแม่นยำและตรวจสอบย้อนกลับได้ตามหลักวิชาการที่ยอมรับในระดับสากล
การประชุมก่อนหน้าได้หารือในกรอบวาระสามประเด็น ได้แก่ การบินโดรนสำรวจพื้นที่ การปักหมุดเขตแดนชั่วคราว และการรังวัดพื้นที่บริเวณพิพาท อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงได้เพียงสองประเด็นแรก ส่วนประเด็นการรังวัดยังไม่สามารถยุติได้ เนื่องจากฝ่ายกัมพูชามีความประสงค์จะเข้ามารังวัดในฝั่งประเทศไทย ซึ่งฝ่ายไทยยืนยันว่าไม่สามารถอนุญาตได้ตามหลักอธิปไตยและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ทูตทหาร 18 ประเทศลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังได้รับความสนใจจากนานาชาติ โดยคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ซึ่งประกอบด้วยทูตทหารจาก 18 ประเทศ อาทิ บรูไน แคนาดา จีน เยอรมนี ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ได้เข้าร่วมประชุมเพื่อติดตามการประเมินสถานการณ์ชายแดนตามรอบปฏิบัติการ
คณะผู้สังเกตการณ์ยังมีกำหนดลงพื้นที่บ้านหนองจาน–หนองหญ้าแก้ว เพื่อติดตามภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ยังหลงเหลืออยู่ในพื้นที่เสี่ยง รวมถึงร่วมสังเกตการณ์การใช้โดรนสำรวจพื้นที่อ้างสิทธิของทั้งสองประเทศ การปรากฏตัวของทูตทหารหลายประเทศสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจต่อความร่วมมือชายแดนไทย-กัมพูชา และบทบาทเชิงยุทธศาสตร์ของพื้นที่ชายแดนในระดับภูมิภาค
