อัจฉริยะยื่นหลักฐาน DSI สอบปมนายตำรวจ 4 นาย พัวพันซื้อขายตำแหน่ง!

อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นำข้อความและคลิปเสียงเข้ายื่นต่อ DSI ให้ตรวจสอบการซื้อขายตำแหน่งตำรวจ 4 นายในภาคอีสาน อ้างมีผู้แอบอ้างเบื้องสูงเรียกรับผลประโยชน์รวมกว่า 24 ล้านบาท

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหลักฐานทั้งข้อความสนทนาและคลิปเสียงเข้ายื่นต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2568 เพื่อให้ตรวจสอบการซื้อขายตำแหน่งของตำรวจ 4 นายในพื้นที่ภาคอีสาน โดยอ้างว่ามีบุคคลซึ่งถูกเรียกว่า “คุณหญิง” แอบอ้างเบื้องสูงเป็นผู้เรียกรับผลประโยชน์ แลกกับการสนับสนุนให้ตำรวจแต่ละนายได้รับตำแหน่งที่ต้องการ ทั้งยังมีการร้องให้ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติตำรวจมาตรา 87 ซึ่งมีโทษเทียบเท่ามาตรา 157 ของกฎหมายอาญา

อัจฉริยะส่งข้อความ–คลิปเสียงชี้พฤติการณ์ซื้อขายตำแหน่ง

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่าหลักฐานที่ยื่นต่อดีเอสไอประกอบด้วยข้อความสนทนาผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ซึ่งอ้างว่าเป็นบทสนทนาระหว่าง “คุณหญิงคนหนึ่ง” กับนายตำรวจยศใหญ่ โดยเนื้อหาชี้ถึงการตกลงแลกเปลี่ยนผลประโยชน์เพื่อให้ตำรวจ 4 นายได้รับการแต่งตั้งในพื้นที่ภาคอีสานตามที่ต้องการ เหตุการณ์ต้นเรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2567 และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องขณะนี้ก็ได้รับตำแหน่งดังกล่าวแล้ว

นอกจากนี้ยังมีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่างผู้ร้องกับภรรยาของนายตำรวจระดับผู้บังคับการ ซึ่งเป็นบุคคลที่ร้องให้เขานำพยานหลักฐานทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ โดยฝ่ายผู้ร้องระบุว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ในรูปแบบเงินสด นาฬิกาหรู และกระเป๋าแบรนด์เนม เพื่อแลกกับตำแหน่ง รวมมูลค่ากว่า 24 ล้านบาท ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ

ผู้ร้องอ้างมีการแอบอ้างเบื้องสูงเพื่อเรียกรับผลประโยชน์

รายละเอียดในคำร้องระบุว่า “คุณหญิง” ซึ่งถูกกล่าวหาว่าแอบอ้างเบื้องสูงได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเสนอช่วยผลักดันตำแหน่งผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ภาคอีสาน แลกกับค่าตอบแทนจำนวนมาก ทั้งในรูปของทรัพย์สินมูลค่าสูงและสิ่งของมีราคา กระบวนการดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผู้ร้องเห็นว่าเป็นการทุจริตที่ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือขององค์กรตำรวจโดยตรง

ผู้ร้องย้ำว่าการเปิดเผยเอกสารและการเข้าร้องทุกข์ในครั้งนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ทางการเมือง แต่ต้องการให้สังคมรับรู้ข้อเท็จจริงและให้กระบวนการยุติธรรมตรวจสอบข้อมูลอย่างโปร่งใส เพื่อยับยั้งการทุจริตที่เกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผู้เรียกรับผลประโยชน์หรือฝ่ายผู้จ่ายผลประโยชน์


📰 อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ The Mainstream

ศาล รธน.ไม่รับวินิจฉัย ปม MOA ภูมิใจไทย–ปชน. ชี้หลักฐานไม่เพียงพอ

“บิ๊กโจ๊ก” จี้ ผบ.ตร. ลงดาบพวกซื้อขายตำแหน่ง ชี้วงการตำรวจวิกฤตแล้ว