จู่โจมค้นเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พบสิทธิพิเศษนักโทษจีนเทาหลายรายการ ทั้งของต้องห้ามและการเยี่ยมผิดระเบียบ กรมราชทัณฑ์ตั้งคณะกรรมการสอบสวน พร้อมสั่งย้ายผู้บัญชาการเพื่อความโปร่งใส
ปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 นำไปสู่การโยกย้าย นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำฯ หลังพบเบาะแสการเอื้อสิทธิพิเศษให้แก่นักโทษชาวจีนกลุ่มสีเทา ซึ่งมีอิทธิพลเหนือผู้ต้องขังรายอื่นในแดนคุมขัง ทั้งยังพบสิ่งอำนวยความสะดวกผิดระเบียบจำนวนมาก ระบุว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดหาของใช้ต้องห้ามและการดูแลเป็นพิเศษ ขณะที่ กรมราชทัณฑ์ ตั้งชุดสอบสวนเร่งตรวจพฤติการณ์ทั้งหมดเพื่อคลี่คลายข้อเท็จจริงภายในเรือนจำ
ตรวจค้นด่วนเปิดโปงสิทธิพิเศษนักโทษจีนเทาในแดนคุมขัง
การตรวจสอบภายในเรือนจำเริ่มต้นจากคำร้องเรียนของผู้ต้องขังไทยที่ไม่พอใจพฤติกรรมของนักโทษจีนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งถูกระบุว่ามีอิทธิพลสูงและได้รับการปฏิบัติอย่างเหนือกว่าผู้ต้องขังทั่วไป สถานการณ์ดังกล่าวกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและระบบระเบียบภายในเรือนจำ จนนำมาสู่การแจ้งเตือนมายังกรมราชทัณฑ์ให้เข้าตรวจสอบอย่างเร่งด่วน
เมื่อชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจเข้าตรวจค้นโดยไม่แจ้งล่วงหน้า พบสิ่งอำนวยความสะดวกจำนวนมากในแดนควบคุมของนักโทษจีน อาทิ ไมโครเวฟ เครื่องปรับอากาศ กาน้ำร้อน รวมถึงอุปกรณ์ต้องห้าม เช่น มีด ของมีคม และไฟแช็ก การพบไฟแช็กบ่งชี้ถึงการสูบบุหรี่ภายในแดนคุมขัง ซึ่งผิดกฎเรือนจำอย่างชัดเจน สะท้อนการดูแลที่ผิดปกติและความเป็นไปได้ว่ามีเจ้าหน้าที่ภายในเกี่ยวข้อง
ความเชื่อมโยงเจ้าหน้าที่–สิทธิพิเศษและช่องโหว่การเยี่ยมของต่างชาติ
ข้อมูลจากแหล่งข่าวชี้ว่า สิ่งของหลายรายการถูกส่งเข้าเรือนจำในลักษณะ “ของบริจาค” ก่อนถูกนำไปใช้ประโยชน์เฉพาะกลุ่ม วิธีการดังกล่าวทำให้ระบบตรวจสอบภายในอ่อนแอ เปิดช่องให้ของใช้ผิดระเบียบหลุดเข้าไปในแดนคุมขังโดยง่าย อีกทั้งยังพบว่ามีเจ้าหน้าที่บางส่วนให้ความช่วยเหลือหรือปกปิดข้อมูลระหว่างการตรวจค้น
ในส่วนการเยี่ยมผู้ต้องขัง มีหญิงต่างชาติมีลักษณะเป็นนางแบบหรือบุคคลที่ไม่ใช่ญาติใกล้ชิด พบว่ามีการอนุญาตให้เข้าพื้นที่เยี่ยมบ่อยครั้ง เนื่องจากขั้นตอนตรวจสอบความเป็นญาติของผู้เยี่ยมชาวต่างชาติทำได้ยาก ส่งผลให้มาตรการคัดกรองอ่อนตัวลงกว่าปกติ สร้างข้อกังวลว่าอาจมีการแทรกแซงจากบุคคลภายนอกที่ต้องการให้ความสะดวกแก่นักโทษจีนบางราย
อิทธิพลภายในแดนขังและระบบดูแลแบบแบ่งชั้น
รายงานเพิ่มเติมระบุว่า นักโทษจีนเทาในบางแดนใช้เงินว่าจ้างผู้ต้องขังไทยที่สื่อสารภาษาจีนได้ให้ทำหน้าที่ดูแลและรับใช้ โดยมีการแบ่งกลุ่มและลำดับชั้นภายในแดนคุมขังอย่างชัดเจน หัวหน้ากลุ่มพักรวมกัน ขณะที่ผู้มีสถานะรองลงไปถูกจัดแยกไปอยู่คนละแดน สร้างสภาพคล้ายโครงสร้างอำนาจภายในเรือนจำ ซึ่งขัดต่อหลักการควบคุมผู้ต้องขังของรัฐ
พฤติการณ์ดังกล่าวทำให้กรมราชทัณฑ์ต้องเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง โดยมีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ นำโดยรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมทั้งสอบปากคำเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง และเร่งถอนสิ่งของต้องห้ามออกจากพื้นที่ควบคุม เพื่อยุติการเอื้อประโยชน์ที่ผิดปกติและฟื้นฟูความโปร่งใสในการบริหารเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
แนวทางสอบสวนและการติดตามผลของกรมราชทัณฑ์
กรมราชทัณฑ์เตรียมเริ่มกระบวนการสอบสวนภายในอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายนเป็นต้นไป โดยคณะกรรมการจะตรวจสอบทั้งขั้นตอนควบคุมผู้ต้องขัง การนำสิ่งของเข้าภายใน การอนุญาตให้ผู้เยี่ยมจากต่างชาติ รวมถึงพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนสนับสนุนการให้สิทธิพิเศษอย่างไม่ถูกต้อง
การย้าย ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปยังกรมราชทัณฑ์ เป็นมาตรการชั่วคราวเพื่อป้องกันการแทรกแซง พร้อมเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบดำเนินไปอย่างเป็นกลาง ขณะเดียวกันกรมราชทัณฑ์ย้ำว่าจะดำเนินการกวดขันเรือนจำทุกแห่งเพื่อไม่ให้เกิดกรณีคล้ายกันในอนาคต หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้สาธารณชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง


