อธิบดีดีเอสไอฮึ่ม! เร่งขยายผลคดี “จีนเทา” ชี้เข้าข่ายคอร์รัปชันเชิงระบบ

ดีเอสไอสั่งกองคดีความมั่นคงเร่งขยายผลคดี “นักโทษจีนเทา” ลักลอบจัดสาวบำเรอผู้ต้องขัง VIP ในเรือนจำไทย หลังพบพิรุธเชื่อมโยงทุนสีเทา–เจ้าหน้าที่รัฐ เตรียมสอบสวนเชิงลึกและอาจออกหมายจับเพิ่ม

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สั่งการกองคดีความมั่นคงเดินหน้าขยายผลคดีอื้อฉาว “นักโทษจีนเทา” ลักลอบจัดหญิงสาวเข้าบำเรอผู้ต้องขังระดับ VIP ภายในเรือนจำพิเศษ หลังตรวจพบพฤติการณ์เข้าออกโดยมิชอบ ส่อเชื่อมโยงเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติและเจ้าหน้าที่รัฐบางราย พร้อมย้ำเป็นคดีที่กระทบต่อความมั่นคงและศรัทธาต่อระบบราชทัณฑ์ไทย

สั่งเร่งคลี่ปม หลังพบความผิดปกติหลายจุดในเรือนจำพิเศษ

แหล่งข่าวภายในดีเอสไอเปิดเผยว่า อธิบดีดีเอสไอได้เรียกประชุมด่วนหลังเอกสารสอบสวนเบื้องต้นบ่งชี้ว่าผู้ต้องขังสัญชาติจีนซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเครือข่ายทุนสีเทา สามารถเข้าถึงสิทธิพิเศษเกินกว่ากฎระเบียบราชทัณฑ์ รวมถึงการนำหญิงสาวจากภายนอกเข้ามาภายในพื้นที่ควบคุมอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและสะท้อนช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของเรือนจำ

เจ้าหน้าที่พบหลักฐานการลงชื่อเข้าออกปลอม การใช้เส้นทางลับในบางอาคาร รวมถึงพฤติการณ์สั่งห้องส่วนตัวในพื้นที่ควบคุมพิเศษ ทำให้ทีมสอบสวนต้องเร่งตรวจสอบว่ามีใครในหน่วยงานของรัฐให้การสนับสนุนหรือรับผลประโยชน์จากขบวนการดังกล่าว

โยงขบวนการทุนสีเทา–อาชญากรรมข้ามชาติ ใช้เรือนจำเป็นฐานต่อรอง

จากข้อมูลเบื้องต้น พบว่าผู้ต้องหาชาวจีนรายนี้มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายทุนสีเทาที่ถูกเจ้าหน้าที่ไทยจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกตั้งข้อหาหลายกระทง ทั้งการฟอกเงิน การค้ามนุษย์ และการกระทำผิดเกี่ยวกับธุรกรรมออนไลน์ผิดกฎหมาย การได้รับสิทธิพิเศษภายในเรือนจำจึงถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นความพยายามของเครือข่ายคอร์รัปชันในการดูแลผู้ต้องขังที่มีข้อมูลสำคัญต่อขบวนการ

เจ้าหน้าที่ดีเอสไอระบุว่า การลักลอบนำหญิงสาวจากภายนอกเข้ามาให้บริการภายในเรือนจำ ไม่เพียงเป็นการละเมิดกฎหมายราชทัณฑ์อย่างรุนแรง แต่ยังเข้าข่ายการเอื้อประโยชน์ต่อองค์กรอาชญากรรม ซึ่งอาจเกี่ยวพันกับการจ่ายส่วย การคุ้มครองผลประโยชน์ และการต่อรองข้อมูลระหว่างผู้มีอิทธิพลกับเจ้าหน้าที่รัฐ

ดีเอสไอเตรียมสอบเจ้าหน้าที่เรือนจำหลายระดับ อาจมีการออกหมายจับเพิ่มเติม

กองคดีความมั่นคงได้รับคำสั่งให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกระดับ ตั้งแต่เจ้าหน้าที่เวรยามในคืนเกิดเหตุจนถึงผู้บังคับบัญชาในสายงานเพื่อหาข้อเท็จจริงว่าใครเป็นผู้เอื้อให้เกิดการนำบุคคลภายนอกเข้าไปยังพื้นที่ควบคุมอย่างผิดกฎหมาย

แหล่งข่าวระบุว่า หากพบหลักฐานว่ามีการรับผลประโยชน์หรือมีส่วนร่วมกับขบวนการทุนสีเทา อาจมีการเสนอออกหมายจับเพิ่มเติมในข้อหาสมคบกันกระทำผิด รวมถึงความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ เนื่องจากหญิงสาวที่ถูกนำเข้าไปอาจถูกล่อลวงหรือใช้เป็นแรงงานบริการโดยไม่สมัครใจ

ราชทัณฑ์ยืนยันให้ความร่วมมือเต็มที่ เตรียมปรับมาตรการความปลอดภัย

ด้านกรมราชทัณฑ์ได้ส่งหนังสือยืนยันพร้อมให้ความร่วมมือกับดีเอสไอในการตรวจสอบทุกขั้นตอน รวมถึงการตรวจสอบระบบกล้องวงจรปิด การบันทึกการเข้าออก และรายชื่อผู้มาเยี่ยมในช่วงเวลาที่ถูกตั้งข้อสงสัย พร้อมระบุว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นการทำลายความเชื่อมั่นของสาธารณชนและกระทบความปลอดภัยของระบบราชทัณฑ์โดยรวม

นอกจากนี้ยังเตรียมทบทวนมาตรการควบคุมผู้ต้องขังในคดีอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะกลุ่มทุนสีเทา ซึ่งมักมีความพยายามใช้เงินหรืออิทธิพลในการเข้าถึงสิทธิพิเศษเพื่อหลบเลี่ยงข้อจำกัด

อธิบดีดีเอสไอย้ำเป็นคดีเชิงระบบ ลั่นไม่ให้ “เงิน–อิทธิพล” ทำลายกระบวนการยุติธรรม

อธิบดีดีเอสไอกล่าวในการประชุมว่า คดีนี้ไม่ใช่เพียงการกระทำผิดในระดับบุคคล แต่สะท้อนให้เห็นถึงความเสื่อมถอยของระบบราชทัณฑ์และความพยายามของเครือข่ายอาชญากรรมในการแทรกซึมหน่วยงานรัฐ หากปล่อยไว้จะเป็นภัยต่อความมั่นคง กระบวนการยุติธรรม และภาพลักษณ์ประเทศ

เขาย้ำว่าดีเอสไอจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้ความจริงปรากฏ โดยไม่เกรงกลัวต่ออิทธิพลทางเศรษฐกิจหรือเครือข่ายใด ๆ พร้อมสั่งตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน เส้นทางการเงิน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด


📰 อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ The Mainstream

3 แคนดิเดตนายกฯ ปชน. ตั้งเป้าชนะ 250 เสียง แต่ไม่ปิดประตูรัฐบาลผสม!

ดำเนินคดีเกือบ 2 พันราย จัดหนัก “ทริปน้ำไม่อาบ” เพชรบูรณ์เข้มดูแลถนน!