สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดสงขลายังไม่นิ่ง แม้หลายเส้นทางเริ่มน้ำลดและเปิดให้สัญจรได้ แต่ศป.กฉ.ส่วนหน้าเร่งช่วยผู้ติดค้างกว่า 100 คนในหาดใหญ่ พร้อมแนะเส้นทางปลอดภัยสำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยว
สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสงขลาช่วงเช้าวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 มีแนวโน้มดีขึ้นหลายจุด โดยน้ำบนถนนสายหลักเริ่มลดลง ทำให้การสัญจรบางเส้นกลับมาใช้งานได้ ขณะเดียวกัน ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัยส่วนหน้า (ศป.กฉ.ส่วนหน้า) และกำลังจากหลายหน่วยงานเข้าช่วยเหลือประชาชนกว่า 100 คนที่ยังติดค้างในพื้นที่น้ำท่วมรุนแรงในอำเภอหาดใหญ่ พร้อมดำเนินการอพยพและลำเลียงไปยังจุดปลอดภัยอย่างเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง
น้ำลดหลายเส้นทางหลัก การสัญจรเริ่มกลับมาเดินหน้าได้บางส่วน
จากการสำรวจของทีมข่าวในพื้นที่บริเวณรอบนอกตัวเมืองจังหวัดสงขลาพบว่า ระดับน้ำเชิงสะพานติณสูลานนท์ลดลงอย่างต่อเนื่อง เหลือเพียงประมาณ 5 เซนติเมตร ทำให้รถยนต์และรถจักรยานยนต์สามารถผ่านได้ตามปกติ เป็นสัญญาณบวกต่อการเปิดเส้นทางคมนาคมในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบหนักตลอดหลายวันที่ผ่านมา
พื้นที่เกาะยอซึ่งเป็นอีกหนึ่งเส้นทางสำคัญ พบเพียงน้ำท่วมขังเล็กน้อย แต่ยังมีเศษขยะกีดขวางในบางช่วง ส่งผลให้การจราจรสองช่องซ้ายต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ขณะที่ถนนกาญจนวนิชตั้งแต่ห้าแยกเกาะยอจนถึงตัวเมืองพบว่าน้ำลดจนถนนแห้งแล้ว แม้ยังมีระดับน้ำสูงประมาณหน้าแข้งบริเวณฝั่งขาออกใกล้ โรงพยาบาลสงขลา ก็ตาม
นอกจากนี้ เส้นทางจากแยกเกาะยอมุ่งหน้าเข้าอำเภอหาดใหญ่จนถึงมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์กลับมาใช้งานได้ตามปกติ ทำให้การเดินทางภายในเมืองคล่องตัวขึ้น และช่วยให้การส่งกำลังบรรเทาทุกข์เข้าสู่พื้นที่วิกฤตเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ตำรวจทางหลวงแนะเส้นทางนักท่องเที่ยวมาเลเซีย – ถนนสายหลักใช้งานได้
ตำรวจทางหลวง เปิดเผยข้อมูลล่าสุดถึงนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียซึ่งต้องการเดินทางกลับประเทศว่าสามารถใช้เส้นทางตั้งแต่ช่วงคลองหวายถึงด่านนอกได้ตามปกติแล้ว โดยเป็นเส้นทางที่น้ำลดลงจนสามารถสัญจรได้ตลอดสาย ถือเป็นข่าวดีสำหรับกลุ่มผู้ใช้รถที่ติดค้างอยู่ในพื้นที่ตั้งแต่เกิดน้ำท่วมระลอกล่าสุด
อย่างไรก็ตาม ยังมีบางจุดของตัวเมืองหาดใหญ่ที่อยู่ในระดับวิกฤต เช่น ถนนเพชรเกษม ถนนเลี่ยงเมืองบริเวณหน้าโรงแรมอัลฟาฮัจย์ ถนนศรีภูวนารถถึงทางเข้าอุโมงค์ รวมถึงเส้นทางก่อนถึงคลองหวาย ซึ่งยังมีระดับน้ำสูงและเสี่ยงต่อการเดินทาง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องวางแผนเส้นทางอพยพและเส้นทางลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์อย่างระมัดระวัง
ศป.กฉ.ส่วนหน้าเร่งช่วยผู้ติดค้างกลางดึก—อพยพต่อเนื่องถึงเช้า
รายงานจาก ศป.กฉ.ส่วนหน้า ระบุว่าเวลา 03.00 น. ของวันที่ 27 พฤศจิกายน หน่วยลาดตระเวนจาก หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ร่วมกับ กองทัพเรือ ตรวจพบประชาชนมากกว่า 100 คนติดค้างในพื้นที่น้ำท่วมรุนแรง ไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ด้วยตนเอง การปฏิบัติการช่วยเหลือจึงเริ่มต้นทันทีหลังได้รับรายงาน
เจ้าหน้าที่ดำเนินการเข้าพื้นที่ด้วยหลักความปลอดภัยสูงสุด อพยพผู้ประสบภัยขึ้นพื้นที่สูงและลำเลียงไปยังศูนย์พักพิง พร้อมจัดหาอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เบื้องต้นภารกิจดำเนินต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้าและยังคงประจำการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างทั่วถึงในช่วงภัยพิบัติครั้งนี้
หน่วยงานยืนยันว่าพร้อมรับมือสถานการณ์ที่ยังอาจเปลี่ยนแปลง พร้อมสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและอาสาสมัครภาคประชาชนเพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด


