เกิดเหตุยิงกลางถนนนนทบุรี เมื่อนักกฎหมายวัย 65 ปี ใช้ปืนยิงไรเดอร์หลังขับรถปาดหน้ากัน ตำรวจพบหลักฐานวงจรปิดเข้าข่ายพยายามฆ่า ผู้ก่อเหตุอ้างป้องกันตัวและพร้อมเยียวยา
เหตุปะทะกลางถนนที่นนทบุรีกลายเป็นคดีอาญารุนแรง เมื่อ นักกฎหมายวัย 65 ปี ใช้อาวุธปืนยิงใส่ นายบดินทร์ สานติสุขรัตน์ ไรเดอร์วัย 36 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนซ้าย เหตุเกิดวันที่ 1 ธันวาคม บริเวณแยกบางพลู ถนนรัตนาธิเบศร์ หลังทั้งสองขับรถปาดหน้ากันและมีการโต้เถียงรุนแรง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง เข้าตรวจสอบและควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งอ้างว่าเป็นการยิงเพื่อป้องกันตัวท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด
เหตุวิวาทบนท้องถนนบานปลายกลายเป็นเหตุยิงเจ็บ
เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย ร.ต.อ.นิพนธ์ พูลสวัสดิ์ รับแจ้งเหตุยิงกันและพบผู้บาดเจ็บเป็นไรเดอร์ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า CB 500X ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 นัดที่แขนซ้าย โดยยังมีสติและนั่งรอความช่วยเหลืออยู่ริมถนน ขณะเดียวกัน ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นนักกฎหมายชื่อดังยืนรอมอบตัวกับตำรวจที่จุดเกิดเหตุ
จากการตรวจสอบพื้นที่ ตำรวจพบรถเก๋งโตโยต้า อัลติส ของผู้ก่อเหตุและหลักฐานที่บ่งชี้ว่าเกิดการปะทะคารมอย่างรุนแรงก่อนจะเกิดเหตุปืนลั่น เบื้องต้นตำรวจควบคุมอาวุธปืนของผู้ต้องหาไว้เป็นหลักฐาน และนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลทันที
คำให้การขัดแย้ง–ตำรวจชี้เข้าข่ายพยายามฆ่า
พนักงานสอบสวนสอบปากคำทั้งสองฝ่ายในเบื้องต้น พบว่ามีการขับรถปาดหน้ากันไปมาและมีการด่าทอระหว่างทาง ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะจอดรถลงมาเคลียร์ แต่การโต้เถียงกลับทวีความรุนแรงจนถึงขั้นใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้เสียหาย
พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสตร์ ผกก.สภ.บางบัวทอง ระบุว่าคดีนี้เข้าข่าย “พยายามฆ่า” ควบคู่กับคดีพกพาอาวุธปืนและยิงปืนในที่สาธารณะ พร้อมยืนยันว่ามีภาพจากกล้องวงจรปิดชัดเจนว่าผู้ก่อเหตุถือปืนลงมาพูดคุยก่อนเกิดเหตุยิง ตำรวจจึงไม่สามารถยุติคดีด้วยการเจรจาได้
ผกก.ระบุด้วยว่า ผู้ต้องหาให้การภาคเสธโดยอ้างป้องกันตัว แต่พฤติการณ์ในภาพรวมต้องพิสูจน์ตามกระบวนการยุติธรรม พร้อมเตือนผู้ใช้รถบนท้องถนนให้มีสติ เพราะความรุนแรงอาจเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด
ผู้ก่อเหตุอ้างถูกท้าทาย–ยิงด้วยอารมณ์ชั่ววูบ
เวลา 19.00 น. ผู้ก่อเหตุให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ ระบุว่าขณะเปิดไฟเลี้ยวซ้าย มีรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายเข้ามาถีบรถและชูนิ้วกลางใส่ ทำให้ตนขับตามไปตำหนิ เมื่ออีกฝ่ายทุบรถอีกครั้งจึงเกิดการโต้เถียง โดยผู้ก่อเหตุอ้างว่าถูกท้าทายให้ยิงและเกิดอารมณ์บันดาลโทสะ จึงชักปืนยิงเพียงเพื่อข่มขู่ ไม่ได้หวังให้กระสุนถูกตัวผู้เสียหาย
ชายวัย 65 ปียืนยันว่าไม่ได้คิดหลบหนี และยังช่วยประสานกู้ภัย รวมถึงบอกว่าตั้งใจจะไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บ หากมีโอกาสพบกันอีกครั้ง
ทนายความยืนยันพร้อมเยียวยา–เดินหน้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ด้าน นายธนินท์ธร ภูมราช รองประธานสภาทนายความจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่าผู้ก่อเหตุเป็นทนายในเครือข่ายของสภาทนายความ และพร้อมรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลตามสมควร ย้ำว่าการยิงเกิดจากอารมณ์ไม่ปกติขณะเกิดเหตุ ไม่ได้มีเจตนาฆ่า แต่ต้องให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไปตามข้อเท็จจริง
ขณะเดียวกัน ฝ่ายครอบครัวผู้เสียหายอยู่ระหว่างประสานงานเพื่อดูแลสิทธิในการดำเนินคดี โดยได้รับการสนับสนุนคำปรึกษาจากสภาทนายความเช่นกัน


