สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาตึงเครียด หลังฮุน เซนสั่งกองกำลังทุกหน่วยยึดเส้นแดงตอบโต้และเตรียมพร้อมสูงสุด พร้อมเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงจากการปะทะต่อเนื่อง
สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง หลัง สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกคำสั่งเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2568 ให้กองกำลังทุกหน่วยยึด “เส้นแดงตอบโต้” อย่างเคร่งครัด พร้อมเตรียมพร้อมเต็มกำลังรับมือความเป็นไปได้ในการโจมตีจากฝั่งไทย โดยระบุว่ามีการยิงอาวุธหลากหลายชนิดจากกองกำลังไทยมาตั้งแต่คืนก่อนถึงเช้าวันเกิดเหตุ ซึ่งถูกมองว่าเป็นความพยายามยั่วยุให้ฝ่ายกัมพูชาโต้กลับและทำให้ข้อตกลงหยุดยิงที่ลงนามเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาไร้ผล
ฮุน เซน สั่งทหารยึด “เส้นแดงตอบโต้” หลังปะทะชายแดนต่อเนื่อง
แถลงการณ์ของ ฮุน เซน ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียระบุอย่างชัดเจนให้กองกำลังทุกระดับรับทราบ “เส้นแดง” หรือกรอบการตอบโต้ที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดหรือดำเนินการผิดพลาดหน้างาน ขณะที่ความตึงเครียดยังคงเพิ่มขึ้นตลอดแนวชายแดนกัมพูชา–ไทย โดยเฉพาะบริเวณที่มีรายงานการปะทะหลายจุดต่อเนื่องตลอด 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา
อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชายังชี้ว่าเหตุยิงจากฝั่งไทยที่เกิดขึ้นหลายครั้งตั้งแต่เมื่อคืน เป็นความเคลื่อนไหวที่อาจมีเจตนายั่วยุให้กัมพูชาตอบโต้รุนแรง เพื่อนำไปสู่การล้มข้อตกลงหยุดยิงและคำประกาศสันติภาพระหว่างสองประเทศที่ลงนามเมื่อเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นกรอบทางการทูตสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายตกลงเคารพร่วมกัน
เร่งอพยพประชาชน–ยกเลิกภารกิจในประเทศเพื่อบัญชาการใกล้ชิด
นอกจากคำสั่งด้านยุทธการแล้ว ฮุน เซน ยังได้สั่งการให้หน่วยงานท้องถิ่นเร่งอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงออกจากแนวปะทะไปยังเขตปลอดภัย พร้อมประสานงานด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน ด้านการแพทย์ และการช่วยเหลือผู้หนีภัย เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจยืดเยื้อ
เขายอมรับว่าจำเป็นต้องยกเลิกภารกิจทั้งหมดในประเทศเพื่อเข้าร่วมกำกับดูแลกองทัพอย่างใกล้ชิดเคียงข้าง นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ท่ามกลางสถานการณ์ที่เรียกได้ว่าเป็น “ช่วงวิกฤติ” ของความสัมพันธ์ชายแดน พร้อมขออภัยต่อแขกผู้มาเยือนทั้งในและต่างประเทศที่ไม่สามารถเข้าพบได้ตามกำหนดการ
ในเวลาเดียวกัน ฮุน เซน ยังส่งกำลังใจไปยังนักกีฬากัมพูชาที่กำลังเข้าร่วมแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 33 ในประเทศไทย โดยย้ำว่าสามารถลงแข่งขันได้ตามปกติและไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความตึงเครียดบริเวณชายแดน


