สถานการณ์ชายแดนทวีความตึงเครียดแต่ยืนยันไร้ความสูญเสีย

สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชายังคงตึงเครียดต่อเนื่อง หลังมีการปะทะด้วยอาวุธเบาและอาวุธสนับสนุนของทั้งสองฝ่ายตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษก กองทัพบก เปิดเผยเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่กองบัญชาการกองทัพบกว่า เหตุปะทะยังเกิดขึ้นเป็นระยะในพื้นที่ชายแดนด้านจังหวัดสระแก้ว แต่ยืนยันว่าไทยยังไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความสูญเสีย ขณะที่หน่วยทหารยังคงเฝ้าระวังและควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการลุกลาม

กองทัพย้ำควบคุมสถานการณ์ได้ แม้ยังมีปะทะด้วยอาวุธสนับสนุน

พล.ต.วินธัย สุวารี ระบุว่า การปะทะที่เกิดขึ้นเป็นการยิงตอบโต้ด้วยอาวุธประจำกายและอาวุธสนับสนุน โดยฝ่ายไทยใช้ปืนครก (ค.) ส่วนฝ่ายกัมพูชาใช้จรวด BM-21 หรือที่รู้จักกันในชื่อ “จรวดหลายลำกล้อง” ทำให้ต้องเพิ่มมาตรการควบคุมพื้นที่และสังเกตการณ์ชายแดนอย่างเข้มงวด เพื่อรักษาความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง

เขาย้ำว่า แม้การปะทะจะเกิดขึ้นต่อเนื่อง แต่ยังไม่ปรากฏรายงานผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิตจากฝ่ายไทย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กองทัพสามารถดำเนินการประเมินสถานการณ์ได้อย่างรอบด้าน และกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสมภายใต้กรอบความมั่นคง

ความคืบหน้าพื้นที่ปราสาทคนา บุรีรัมย์ ยังต้องเคลียร์ทุ่นระเบิด

ด้านสถานการณ์ที่ ปราสาทคนา จังหวัดบุรีรัมย์ โฆษกกองทัพบกยืนยันว่า ปัจจุบันไม่พบการตอบโต้จากฝ่ายกัมพูชาแล้ว แต่การควบคุมพื้นที่ยังไม่สามารถทำได้เต็มรูปแบบ เนื่องจากยังคงมี ทุ่นระเบิด กระจายอยู่ในพื้นที่จำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเข้าตรวจสอบและดูแลความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชน

กองทัพอยู่ระหว่างประเมินเส้นทางและพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้ชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดสามารถเข้าเคลียร์พื้นที่ได้อย่างปลอดภัยในลำดับต่อไป โดยให้ความสำคัญกับการลดความเสี่ยงต่อชีวิตและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นสำคัญ

กองทัพภาคที่ 1 ควบคุมพื้นที่สระแก้วได้สมบูรณ์

สำหรับพื้นที่ชายแดนด้านจังหวัดสระแก้ว ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ กองทัพภาคที่ 1 รายงานระบุว่า สามารถควบคุมพื้นที่ได้อย่างสมบูรณ์ ณ บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังการปะทะยังเกิดขึ้นเป็นบางช่วง แต่การลาดตระเวนและการเสริมกำลังเข้าประจำจุดยุทธศาสตร์ช่วยให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ระดับที่ควบคุมได้

เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ยังคงติดตามความเคลื่อนไหวของกองกำลังฝั่งกัมพูชาอย่างใกล้ชิด เพื่อลดความเสี่ยงของเหตุปะทะซ้ำ พร้อมเตรียมแนวทางสื่อสารกับฝ่ายตรงข้ามตามกลไกการประสานงานชายแดน เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดที่อาจนำไปสู่ความตึงเครียดเพิ่มเติม