การเตรียมพร้อมรับตัวคนไทยกลับประเทศหลังสถานการณ์ชายแดนตึงเครียด
วันนี้ (11 ธ.ค. 2568) หน่วยงานความมั่นคงไทยเร่งเตรียมกระบวนการรับคนไทยกลับจากปอยเปต ประเทศกัมพูชา หลังมีคนไทยกว่า 6,000 คนยื่นรายชื่อผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ เพื่อประสานมายังกองกำลังบูรพาเพื่อเดินทางกลับประเทศ เนื่องจากมีความกังวลด้านความปลอดภัยจากสถานการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดทำขั้นตอนคัดกรองและตรวจสอบเอกสารตามหลักความมั่นคง เพื่อรองรับการเดินทางกลับเป็นจำนวนมากในครั้งนี้
ยกระดับมาตรการคัดกรองและตรวจสอบคนไทยจากปอยเปต
หลังเหตุปะทะในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้วเมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา กองกำลังบูรพา ได้ใช้มาตรการตามกฎอัยการศึกผลักดันชาวกัมพูชาหลายพันคนออกนอกพื้นที่ เพื่อรักษาความปลอดภัยชายแดน ก่อนที่ในวันนี้ฝ่ายความมั่นคงจะต้องรับมือภารกิจใหม่ นั่นคือการนำคนไทยจำนวนมากกลับเข้าประเทศ
กระบวนการรับตัวคนไทยถูกกำหนดให้ดำเนินไปอย่างเป็นระบบ โดยจะเริ่มจากการตรวจสอบข้อมูลบุคคลผ่านระบบ NRM หรือการคัดแยกเหยื่อ เพื่อระบุสถานะการเดินทางว่ามีเอกสารถูกต้องหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นพาสปอร์ต หนังสือผ่านแดน หรือกรณีที่เดินทางออกผิดช่องทาง ซึ่งทุกขั้นตอนอยู่ภายใต้การดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองอย่างใกล้ชิด
หลังการตรวจเอกสารแล้ว จะมีการตรวจสอบว่าบุคคลนั้นมีหมายจับหรือประวัติการกระทำผิดหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรคลองลึก หากพบการกระทำผิดกฎหมายจะดำเนินคดีตามขั้นตอน แต่หากไม่มีความผิดจะถูกส่งต่อไปยังกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประจำจังหวัด เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรองและช่วยเหลือเพิ่มเติม
จัดพื้นที่รองรับและสนธิกำลังหลายหน่วยงานประสานงานร่วมกัน
เพื่อรองรับจำนวนคนไทยที่อาจหลั่งไหลกลับเข้าประเทศจำนวนมาก หน่วยงานความมั่นคงได้จัดเตรียมพื้นที่สำหรับคัดกรองไว้หลายแห่งในจังหวัดสระแก้ว ได้แก่ มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตสระแก้ว กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดสระแก้ว และสโมสรมณฑลทหารบกที่ 19 โดยแต่ละพื้นที่ได้รับการเลือกตามความพร้อมด้านสาธารณูปโภคและการรองรับจำนวนคนจำนวนมาก
ในการปฏิบัติการครั้งนี้ มีการบูรณาการกำลังจากหลายหน่วย ทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจภูธรคลองลึก ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 อาสารักษาดินแดนอรัญประเทศ กองร้อยควบคุมฝูงชน และตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งทั้งหมดจะร่วมกันดูแลทั้งความปลอดภัย การตรวจสอบข้อมูล และการอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่เดินทางกลับ
หน่วยงานรัฐย้ำว่าการรับตัวครั้งนี้เป็นมาตรการเชิงป้องกันเพื่อให้คนไทยได้รับความปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐานสากล และป้องกันการถูกแสวงประโยชน์ในพื้นที่เสี่ยง รวมถึงเป็นการลดผลกระทบจากสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดน


