สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชายังคงรุนแรงต่อเนื่อง โดย พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 ว่า การโจมตีด้วยอาวุธหนักจากฝั่งกัมพูชายังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กำลังพลไทย เสียชีวิต 9 นาย และบาดเจ็บกว่า 120 นาย ขณะที่ประชาชนกว่า 199,000 คนต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงทั่วพื้นที่ชายแดน พร้อมยืนยันว่าเหล่าทัพไทยยังคงปฏิบัติการตอบโต้และผลักดันพื้นที่ตามแผนยุทธการอย่างมีประสิทธิภาพ ท่ามกลางความเสี่ยงด้านความมั่นคงที่เพิ่มสูงขึ้น

กัมพูชายังคงใช้โดรนและ BM-21 โจมตี จุดไฟการสู้รบไม่หยุด
โฆษกกระทรวงกลาโหมระบุว่า ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้กำลังยิงด้วยอาวุธหนัก ทั้งจรวด BM-21 โดรนโจมตีแบบ Kamikaze และปืนครก โดยเฉพาะในบริเวณช่วงอานม้าและเนิน 667 ซึ่งเป็นพื้นที่สูงที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ทำให้กองกำลังไทยต้องเพิ่มการป้องกันและกระจายกำลังเพื่อรับมือการโจมตีที่เกิดขึ้นแทบตลอดทั้งวัน
ในส่วนของกองทัพเรือ มีการปฏิบัติตาม “ยุทธการตราดปราบปรปักษ์” ในจังหวัดตราดอย่างต่อเนื่อง แม้จะถูกโจมตีด้วยโดรนจากฝั่งกัมพูชาเช่นกัน โดยผู้บัญชาการได้ย้ำว่าการเคลื่อนกำลังของทั้งสองเหล่าทัพเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ที่วางไว้ และมีความคืบหน้าเชิงปฏิบัติการอย่างมีนัยสำคัญในหลายจุดยุทธศาสตร์
พบกัมพูชาใช้บ้านประชาชนเป็นฐานยิง ชี้เข้าข่ายละเมิดอนุสัญญา
ระหว่างการประเมินสถานการณ์ หน่วยข่าวความมั่นคงไทยพบหลักฐานว่าทหารกัมพูชาบางส่วนใช้บ้านเรือนประชาชนเป็นฐานติดตั้งปืนกลและเป็นแนวกำบัง ซึ่งเข้าข่ายละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์ สร้างความกังวลต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย
กองทัพอากาศยังคงสนับสนุนกำลังภาคพื้นดินอย่างใกล้ชิด โดยใช้การลาดตระเวนและระวังป้องกันเชิงอากาศเพื่อให้หน่วยภาคพื้นสามารถรุกคืบตามแผนปฏิบัติการที่วางไว้ แม้การสู้รบจะมีความซับซ้อนมากขึ้นจากการใช้โดรนและจรวดหลายรูปแบบจากฝั่งกัมพูชา
ยอดสูญเสียทหารไทยเพิ่ม รวมเสียชีวิตแล้ว 9 นาย บาดเจ็บกว่า 120 นาย
รายงานล่าสุดระบุว่า กำลังพลไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 นาย แบ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 จำนวน 1 นาย และกองทัพภาคที่ 2 อีก 1 นาย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตตั้งแต่เริ่มปะทะเพิ่มเป็น 9 นาย และมีผู้บาดเจ็บรวมประมาณ 120 นาย มีทั้งจากแรงระเบิด ปืนใหญ่ และโดรนโจมตี
ขณะเดียวกัน กองทัพได้เผยภาพความเสียหายของบ้านเรือนและโครงสร้างพื้นฐานในจังหวัดตราดที่ถูกโจมตีด้วย BM-21 รวมถึงถนน โรงพยาบาล และศูนย์อพยพหลายแห่งที่ได้รับผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือนของอาวุธหนักในหลายพื้นที่ติดชายแดน
พลเรือนเสียชีวิต 3 คน อพยพกว่า 199,000 คน กระทบโรงพยาบาล 199 แห่ง
ข้อมูลเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม เวลา 16.00 น. ระบุว่า ประชาชนในพื้นที่ปะทะต้องอพยพรวม 199,618 คน กระจายอยู่ในศูนย์พักพิงจำนวน 849 แห่ง โดยมีพลเรือนเสียชีวิต 3 รายจากผลกระทบทางอ้อม ได้แก่ นายประหยัด ปาลี ที่เสียชีวิตจากอาการแน่นหน้าอกจากภาวะตื่นตระหนก นางสมจิตร สุกรี ที่เสียชีวิตจากภาวะช็อก และพระศักดา ฉิมมาลา อายุ 82 ปี ที่เสียชีวิตจากอาการหัวใจล้มเหลวหลังตกใจเสียงปืนใหญ่ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว
นอกจากนี้ โรงพยาบาลในจังหวัดชายแดนได้รับผลกระทบรวม 199 แห่ง แบ่งเป็นโรงพยาบาลหลัก 19 แห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกว่า 180 แห่ง ทำให้ต้องมีการโยกย้ายผู้ป่วยออกจากพื้นที่เสี่ยงอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งขอประณามการใช้อาวุธหนักของกัมพูชาที่ไม่เลือกเป้าหมาย ส่งผลกระทบต่อทั้งพลเรือนและระบบสาธารณสุข


