ครม.อนุมัติงบกลาง 2.4 พันล้าน เสริมกองทัพรับมือภัยคุกคามชายแดน

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบอนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลางจำนวนกว่า 2.4 พันล้านบาท เพื่อสนับสนุนภารกิจของกองทัพในการรับมือสถานการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาด้านตะวันออก โดยการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 ภายหลัง กระทรวงกลาโหม เสนอขอรับการสนับสนุนงบเพิ่มเติมสำหรับปีงบประมาณ 2569 ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการเตรียมกำลังพล อุปกรณ์ และการรักษาขวัญกำลังใจ เพื่อรองรับภัยคุกคามในภาวะฉุกเฉิน ขณะที่รัฐบาลยืนยันมาตรการกำกับดูแลการขนส่งน้ำมันตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด

ครม.ไฟเขียวงบกลางหนุนภารกิจความมั่นคงชายแดน

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามคำขอของ กระทรวงกลาโหม ในการใช้งบประมาณรายจ่ายงบกลางเพิ่มเติม วงเงินรวม 2,444,061,516 บาท เพื่อรองรับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยเป็นการขอจากทั้ง กองทัพบก และ กองทัพเรือ

โฆษกรัฐบาลระบุว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความมั่นคงของประเทศเป็นลำดับแรก การสนับสนุนงบประมาณครั้งนี้จึงมุ่งเน้นการเตรียมความพร้อมเชิงป้องกัน เพื่อให้หน่วยกำลังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้สถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

เน้นดูแลขวัญกำลังใจ รับมืออริราชศัตรูยามฉุกเฉิน

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ย้ำว่า รายละเอียดการใช้งบประมาณบางส่วนไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความมั่นคง แต่ยืนยันว่าการใช้งบดังกล่าวจะมุ่งไปที่การดูแลขวัญกำลังใจและสวัสดิการของกำลังพลเป็นหลัก

รัฐบาลเห็นว่า การรักษาขวัญกำลังใจเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมศักยภาพการป้องกันประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนที่มีความอ่อนไหว ซึ่งกำลังพลต้องเผชิญความเสี่ยงและแรงกดดันสูงในภาวะฉุกเฉิน

ชี้แจงปมรถขนน้ำมันช่องเม็ก คลายกังวลประชาชน

โฆษกรัฐบาลยังได้ชี้แจงต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีกระแสความกังวลของประชาชนเกี่ยวกับรถบรรทุกน้ำมันบริเวณช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี ว่าอาจมีการลักลอบส่งน้ำมันไปยังกัมพูชาผ่าน สปป.ลาว โดยยืนยันว่า จากการหารือในที่ประชุม สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และข้อมูลจาก กระทรวงพลังงาน พบว่า ในช่วง 2–3 เดือนที่ผ่านมา ปริมาณการส่งน้ำมันไปยัง สปป.ลาว ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงพลังงาน กรมสรรพสามิต และ กรมศุลกากร เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบรถขนน้ำมันทุกคันที่ผ่านชายแดน โดยต้องตรวจสอบปลายทางอย่างรวดเร็วและโปร่งใส

ยืนยันติด GPS ทุกคัน ไม่ใช้เส้นทางอ้อมไปกัมพูชา

ในส่วนของมาตรการด้านการคมนาคม กระทรวงคมนาคม ยืนยันว่า รถขนน้ำมันทุกคันที่วิ่งผ่านเส้นทางชายแดนติดตั้งระบบ GPS เพื่อให้สามารถติดตามเส้นทางได้ตลอดเวลา และไม่อนุญาตให้ใช้เส้นทางผ่าน สปป.ลาว เพื่อส่งต่อไปยังกัมพูชาอย่างเด็ดขาด

สุดารัตน์แฉค่าตัว สส.พุ่ง 50-70 ล้าน เตือนอย่าเลือกคนซื้อเสียง