ไทยเปิดเกมรุกยุทธการชายแดน ตาควาย–เนิน 350 ยังปะทะหนัก

กองทัพไทยเปิดปฏิบัติการเชิงรุกตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา หลังการปะทะยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 10 โดย กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2568 ระบุว่าฝ่ายไทยสามารถยึดและควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์หลายจุดได้ ขณะที่ฝ่ายกัมพูชายังใช้อาวุธหนักถล่มต่อเนื่องในบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควายและเนิน 350 การสู้รบเกิดขึ้นในหลายจังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี และบุรีรัมย์ ท่ามกลางการเฝ้าระวังระดับสูงของกองกำลังไทย

กองทัพภาคที่ 2 สรุปภาพรวม ไทยเปิดเกมรุกหลายแนวรบ

กองทัพภาคที่ 2 รายงานว่า การปะทะตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เริ่มต้นจากเหตุทหารกัมพูชาใช้อาวุธโจมตีฝ่ายไทยเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2568 ในพื้นที่ภูผาเหล็ก–พลาญหินแปดก้อน อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ก่อนขยายวงการสู้รบไปยังหลายพื้นที่ยุทธศาสตร์

สถานการณ์ล่าสุดสะท้อนว่าฝ่ายไทยเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเชิงยุทธการในหลายจุด ใช้อาวุธประสานหลายมิติ ทั้งปืนใหญ่ รถถัง ทหารราบ และอากาศยานไร้คนขับ เพื่อควบคุมพื้นที่สำคัญ ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาตอบโต้ด้วยการยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 และอาวุธวิถีโค้งอย่างต่อเนื่อง

ช่องอานม้า–ศรีสะเกษ สมรภูมิเดือด ฝ่ายไทยยึดพื้นที่ได้

ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี บริเวณช่องอานม้า ถูกระบุว่าเป็นพื้นที่การรบที่เข้มข้นที่สุด ฝ่ายไทยปฏิบัติการเชิงรุกตามแผน “ยุทธการศตวรรษ” จนสามารถควบคุมพื้นที่ได้โดยสมบูรณ์ พร้อมตรวจพบและทำลายทุ่นระเบิด PMN-2 ในพื้นที่

ขณะเดียวกัน พื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยเฉพาะแนวซำแต–โดนตรวล–ภูผี–สัตตะโสม และช่องตาเฒ่า ฝ่ายกัมพูชายิงปืนใหญ่และจรวด BM-21 เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลการข่าวพบว่าฝ่ายกัมพูชาประสบปัญหาขาดเสบียง แต่ยังคงใช้อาวุธหนักพยายามต้านทานการรุกของฝ่ายไทย

ผามออีแดง–ภูมะเขือ ตรวจพบโดรนทิ้งระเบิดหลายครั้ง

พื้นที่ผามออีแดงและห้วยตามาเรีย ยังคงมีการปะทะเป็นระยะด้วยปืนเล็กยาวและปืนครก ฝ่ายไทยตรวจพบรถส่งกำลังบำรุงของฝ่ายตรงข้ามหลายครั้ง จึงใช้อาวุธหนักยิงทำลายเป้าหมายทางทหารตามหลักยุทธวิธี

นอกจากนี้ ในพื้นที่ภูมะเขือและแนวช่องโดนเอาว์–พลาญยาว–พลาญหินแปดก้อน ฝ่ายไทยตรวจพบโดรนขนาดใหญ่ คาดว่าเป็นโดรนทิ้งระเบิดของทหารกัมพูชา บินค้นหาเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง สะท้อนการเปลี่ยนรูปแบบการรบที่พึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น

สุรินทร์–บุรีรัมย์ ตาควาย–เนิน 350 ยังเป็นจุดปะทะหลัก

ในจังหวัดสุรินทร์ บริเวณช่องจอม–ช่องเปรอ–ช่องระยี ทหารกัมพูชายิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้ามายังฝั่งไทย ขณะที่พื้นที่คนา ฝ่ายไทยสามารถยึดที่หมายและควบคุมสถานการณ์ได้ แม้จะมีการยิงปืนใหญ่สนับสนุนจากฝ่ายตรงข้ามเป็นระยะ

พื้นที่ปราสาทตาควายและเนิน 350 ยังคงเป็นจุดปะทะสำคัญ ฝ่ายไทยมีกำลังพลได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดและการยิงตอบโต้ ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธหนัก ทั้งปืนใหญ่ รถถัง และอากาศยานไร้คนขับโจมตีอย่างต่อเนื่อง ส่วนแนวชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์ พื้นที่ช่องสายตะกู มีการยิงตอบโต้ด้วยปืนครกและปืนใหญ่เป็นช่วง ๆ

ภาพรวมการรบ ไทยยังคุมสถานการณ์ได้

กองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า วันที่ 15 ธันวาคม ถือเป็นวันที่การสู้รบมีความรุนแรงสูงสุด โดยเฉพาะพื้นที่ช่องอานม้าและปราสาทตาควาย อย่างไรก็ตาม ฝ่ายไทยยังสามารถยึดและควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญได้หลายจุด ระบบแพทย์สนามและการส่งกลับผู้บาดเจ็บดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง

แนวโน้มสำคัญของสถานการณ์คือ ฝ่ายกัมพูชาเพิ่มการใช้โดรนควบคู่กับการยิงจรวด BM-21 แต่ภาพรวมฝ่ายไทยยังคงครองความได้เปรียบเชิงพื้นที่ และสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ตามแผนยุทธการ โดยกองทัพย้ำว่าทุกปฏิบัติการดำเนินการด้วยความรอบคอบ เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ

ประชาธิปัตย์จ่อเปิดแคนดิเดตนายกฯ–นโยบายเลือกตั้ง สัปดาห์หน้า

ไร้เงากัมพูชาร่วมถกต้านสแกมเมอร์ ไทยดันยกระดับสู่ความร่วมมือโลก