กองทัพไทยเผยทำลายตึกสแกมเมอร์ 6 แห่ง ตัดรากอาชญากรรมข้ามชาติ

กองทัพไทย เปิดเผยความคืบหน้าปฏิบัติการทางทหารจากสถานการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา โดยยืนยันว่าได้ทำลายอาคารกาสิโนและโรงแรมที่ถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการของเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติแล้วไม่น้อยกว่า 6 แห่ง ภายในช่วงวันที่ 14–18 ธันวาคม 2568 ในจำนวนนี้พบอย่างน้อย 2 แห่งเป็นทรัพย์สินที่เคยถูก สหรัฐฯ คว่ำบาตรและยึดทรัพย์มาก่อน จากการพัวพันขบวนการหลอกลวงพลเมืองอเมริกันมายาวนาน โดยกองทัพย้ำว่าการปฏิบัติการครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสกัดภัยคุกคามข้ามชาติ ไม่ใช่การขยายความขัดแย้งทางทหาร

เปิดปฏิบัติการโจมตีฐานสแกมเมอร์กลางพื้นที่ชายแดน

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเปิดเผยว่า อาคารที่ถูกทำลายส่วนใหญ่เป็นกาสิโนและโรงแรมขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ใกล้แนวชายแดน และถูกใช้เป็นศูนย์บัญชาการของเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติที่มีโครงสร้างซับซ้อน

การตรวจสอบข้อมูลข่าวกรองพบว่า อาคารเหล่านี้เป็นจุดรวมการดำเนินการหลอกลวงออนไลน์ ทั้งการหลอกลงทุน การพนันออนไลน์ และคอลเซ็นเตอร์ผิดกฎหมาย ซึ่งสร้างความเสียหายต่อเหยื่อในหลายประเทศ รวมถึงประชาชนไทยและชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก

สองอาคารสำคัญเคยถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรทางการเงิน

ในจำนวนเป้าหมายทั้งหมด มีอย่างน้อย 2 อาคารหลักเป็นรีสอร์ทและโรงแรมกาสิโนที่เคยถูกกระทรวงการคลังของ สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีคว่ำบาตร และดำเนินการยึดทรัพย์เจ้าของกิจการมาก่อนหน้านี้ จากหลักฐานการมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกรรมสแกมเมอร์ที่หลอกลวงพลเมืองอเมริกันมาเป็นเวลานาน

แหล่งข่าวระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้หลายประเทศเลือกใช้ท่าทีระมัดระวังต่อสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดน และยังไม่มีมาตรการกดดันต่อไทยอย่างเป็นรูปธรรม แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายลดระดับความรุนแรงก็ตาม

กองทัพไทยย้ำเป้าหมายไม่ใช่สงคราม แต่คือการตัดรากอาชญากรรม

กองทัพไทยชี้แจงว่า ปฏิบัติการที่เกิดขึ้นไม่ใช่การขยายวงความขัดแย้งทางทหาร หากแต่เป็นการใช้มาตรการด้านความมั่นคงเพื่อจัดการภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ซึ่งเชื่อมโยงอาชญากรรมไซเบอร์ การฟอกเงิน และเครือข่ายอิทธิพลข้ามชาติ

การทำลายโครงสร้างพื้นฐานของขบวนการสแกมเมอร์ ถือเป็นการตัดวงจรอาชญากรรมตั้งแต่ต้นทาง ลดความสามารถในการกลับมาดำเนินการซ้ำ และเป็นการส่งสัญญาณว่าประเทศไทยจะไม่เป็นพื้นที่ปลอดภัยของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติอีกต่อไป

บทบาทไทยในฐานะแนวหน้ารับมือภัยคุกคามระดับโลก

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงประเมินว่า ท่าทีของประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ สหรัฐฯ ที่แสดงความกังวลเชิงสัญลักษณ์มากกว่าการกดดันเชิงนโยบาย สะท้อนการรับรู้ร่วมกันว่าปฏิบัติการของไทยมีเป้าหมายสอดคล้องกับความพยายามปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในระดับโลก

กองทัพไทยย้ำว่า การดำเนินการครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ แต่ยังเป็นการยืนอยู่แนวหน้าร่วมกับนานาชาติในการรับมือภัยไซเบอร์และเครือข่ายสแกมเมอร์ที่สร้างความเสียหายต่อประชาชนทั่วโลก

“สีหศักดิ์” ปรากฏตัวภูมิใจไทย ถ่ายรูปสมัคร สส. ย้ำยังไม่คิดการเมือง

หวัง อี้ ต่อสายคุยไทย-กัมพูชา ส่งสัญญาณลดตึงเครียด มุ่งหยุดยิง