กรณีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างลักษณะคล้ายประติมากรรมทางศาสนาในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งถูกเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์จนก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุด ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ออกมาชี้แจงอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2568 ว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปเพื่อการบริหารจัดการพื้นที่และความมั่นคง หลังฝ่ายไทยกลับเข้าควบคุมพื้นที่ที่ยืนยันสิทธิอธิปไตย ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับศาสนา ความเชื่อ หรือการดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ
ศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ ย้ำเป็นการจัดการพื้นที่ ไม่เกี่ยวศาสนา
ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ระบุว่า สิ่งปลูกสร้างที่ถูกรื้อถอนเป็นโครงสร้างที่ถูกติดตั้งขึ้นภายหลัง และไม่ได้เป็นศาสนสถานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการ การดำเนินการจึงอยู่ภายใต้กรอบการบริหารจัดการพื้นที่ด้านความมั่นคง หลังจากฝ่ายไทยสามารถกลับเข้าควบคุมพื้นที่ซึ่งอยู่ในเขตที่ประเทศไทยยืนยันสิทธิอธิปไตย
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันว่า ไม่มีเจตนาแอบแฝงทางศาสนา หรือการลบหลู่ความเชื่อใดๆ ทั้งสิ้น โดยการรื้อถอนมีเป้าหมายเพื่อลดความเสี่ยงของความเข้าใจคลาดเคลื่อน และป้องกันไม่ให้มีการใช้สัญลักษณ์ในพื้นที่อ่อนไหว ซึ่งอาจนำไปสู่ความตึงเครียดด้านความมั่นคงเพิ่มเติม
ยืนยันเคารพทุกศาสนา พร้อมแสดงความเสียใจหากเกิดความไม่สบายใจ
ศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ เน้นย้ำว่า ประเทศไทยยึดมั่นในหลักการเคารพทุกศาสนาและทุกความเชื่ออย่างเท่าเทียม รวมถึงศาสนาฮินดู ซึ่งมีความผูกพันทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมกับประเทศในภูมิภาคมาอย่างยาวนาน และถือเป็นมรดกทางอารยธรรมร่วมกันของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
พร้อมกันนี้ ทางการไทยแสดงความเสียใจ หากการดำเนินการดังกล่าวก่อให้เกิดความไม่สบายใจแก่ประชาชนหรือผู้ศรัทธา อันเนื่องมาจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยย้ำว่าการสื่อสารของรัฐจะให้ความสำคัญกับความละเอียดอ่อนทางวัฒนธรรมควบคู่ไปกับประเด็นด้านอธิปไตยและความมั่นคง
อินเดียแสดงท่าทีห่วงใย เรียกร้องใช้การทูตคลี่คลายปัญหา
ด้านต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศอินเดียเผยแพร่ถ้อยแถลงผ่านเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการ ระบุว่า ได้รับรายงานเกี่ยวกับการรื้อถอนรูปปั้นเทพเจ้าฮินดู ซึ่งถูกสร้างขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากข้อพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา และแสดงความกังวลต่อผลกระทบด้านความรู้สึกของผู้ศรัทธา
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอินเดียระบุว่า เทพเจ้าฮินดูและพุทธได้รับการเคารพอย่างลึกซึ้งจากประชาชนทั่วทั้งภูมิภาคในฐานะมรดกทางอารยธรรมร่วม พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความระมัดระวัง และขอให้ไทยและกัมพูชากลับสู่กระบวนการเจรจาและการทูต เพื่อฟื้นฟูสันติภาพ ลดความตึงเครียด และหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน และมรดกทางวัฒนธรรม
ศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ ยืนยันว่า ประเทศไทยยึดมั่นในการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี การเจรจา และการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ในทุกระดับ เพื่อรักษาบรรยากาศแห่งมิตรภาพระหว่างประเทศและประชาชนของทั้งสองฝ่าย พร้อมเดินหน้าประสานงานกับประเทศที่เกี่ยวข้องผ่านช่องทางทางการทูต


