เรื่อง : สินนภา ดีเลิศพัฒนา ภาพ : วรวิทย์ พานิชนันท์
นับได้ว่า เป็นบิ๊กอีเวนต์แห่งปี Sustainability Expo 2024 (SX 2024) มหกรรมความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมาร่วมเรียนรู้ แลกเปลี่ยน และสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ตอบโจทย์คนทุกเพศทุกวัยอย่างเท่าเทียม ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่น่าสนใจ
เพราะโลกถูกคุกคามด้วยมือมนุษย์ มนุษย์เองก็ต้องแก้ปมด้วยตัวเอง ทั้งพร้อมใจรวมพลังสร้างโลกใบใหม่ให้น่าอยู่ต่อไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน
อาหารการกินเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่เป็นเรื่องใกล้ตัว “ดีไลฟ์-ประชาชาติฯ” ฉบับนี้ ขอเกาะกระแสลดโลกร้อน-โลกเดือด ด้วยการเปิดใจเปิดเส้นทางแบบกรีนกรีนของ 3 สาวตัวแม่ที่แคร์โลก
นั่นคือ เชอรี่-เข็มอัปสร, แม็กซีน-อินทิพร และนิปปอน-นวนันท์ เพราะเธอทั้งสามได้ให้เกียรติมาร่วมงาน SX 2024 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่จัดงานมาตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน-6 ตุลาคม 2567
เชอรี่-เข็มอัปสร สิริสุขะ
ความสะดวกสบาย VS ความยั่งยืน
“เชอรี่-เข็มอัปสร สิริสุขะ” ดาราสาวแห่งวงการรักษ์โลก บอกว่า ความท้าทายแรกของการรักษ์โลกคือ ความสะดวกสบายและความยั่งยืนนั้น ไม่ใช่เรื่องที่สอดคล้องกัน
“เพราะหากเลือกความสะดวกสบาย ก็มักจะไม่ยั่งยืน”
การใช้ชีวิตที่ดีและรักษ์โลกอย่างถูกทางจะส่งผลดีต่อตัวเราแน่นอน ทั้งกายและใจ
แม้ว่า ต้นทุนด้านการรักษ์โลกจะสูง แต่หลายครั้งก็ช่วยประหยัดได้เช่นกัน อาทิ การประหยัดพลังงานที่สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ ทั้งยังเพิ่มการเป็นอยู่ที่ดีทางด้านสิ่งแวดล้อม เพิ่มพื้นที่สีเขียว สนับสนุนสุขภาวะที่ดี ส่งผลต่อสภาวะจิตใจ
ทั้งได้ยกตัวอย่าง “ทางเลือก” ระหว่างความสะดวกสบายกับความยั่งยืนว่า การเลือกอาหารและแหล่งที่มา เราเลือกบริโภคแบบไหนที่มีความยั่งยืนมากกว่าอาหารขยะ ซึ่งแน่นอนว่าอาหารขยะมีความสะดวกสบายมากกว่า แต่การที่เราทำอาหารรับประทานเองที่บ้านก็จะสามารถช่วยลดขยะได้ตั้งแต่ต้นทาง เป็นอีกแนวที่สร้างความอย่างยั่งยืน
อีกหนึ่งเรื่องสำคัญคือ การใช้บรรจุภัณฑ์แบบครั้งเดียวทิ้ง (Single Use) พลาสติกเป็นสิ่งที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อความสะดวกสบายก็จริง แต่การสลายกลับมีอายุที่ยาวนานหลายร้อยปี การใช้พลาสติกหนึ่งชิ้นในชีวิตประจำวันของเรา
“จริง ๆ แล้วมันคุ้มค่าแค่ไหน เป็นเรื่องน่าคิด ปัจจุบันมนุษย์ทั่วโลกได้ตื่นตัวกันมากแล้วกับเรื่องการใช้พลาสติก คนไทยเองก็น่ารัก ปฏิเสธการใช้พลาสติกเป็นสถิติที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ”
“เชอรี่” กล่าวถึงไลฟ์สไตล์ตัวเธอว่า ชีวิตที่ผ่านมา เมื่อถึงจุดหนึ่งก็คิดปรับและเปลี่ยน ยอมรับว่า ตัวเองได้ปรับตัวเยอะเหมือนกัน สาเหตุมาจากคนบริโภคกาแฟเยอะมาก วันวันหนึ่งคนดื่มกาแฟราว ๆ 4 แก้ว
ซึ่งกาแฟ 1 แก้วมีพลาสติกหลายชิ้นมาก ๆ มีทั้งแก้ว ฝาปิด หลอด และถุง ทำให้คิดมากไปถึงเรื่องการสร้างขยะแบบที่เรียกว่า “ใช้เพียง 7 วินาทีแล้วก็ถูกทิ้ง”
เธอเลยเริ่มพกกระบอกน้ำ แก้วกาแฟ กล่องใส่ข้าว และถุงผ้าเป็นของตัวเอง แรก ๆ เธอไม่ชินเลย มีลืมเอาออกจากบ้านบ้าง ลืมเอากลับบ้านบ้าง มีปัญหาจุกจิกเยอะแยะมากมาย แต่พอค่อย ๆ ปรับตัวปรับไลฟ์สไตล์ปรับการใช้ชีวิต เธอก็สามารถทำได้ในที่สุด
“การใช้ชีวิตรักษ์โลกต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย สร้างความมั่นคงระยะยาว แม้ตอนนี้ไลฟ์สไตล์รักษ์โลกยังเป็นทางเลือกอยู่ แต่อนาคตจะกลายเป็นกระแสหลัก หากเราเตรียมการไว้ก็ถือว่า เราเป็นคนที่เริ่มขับเคลื่อนบ้างแล้วก็คงดีต่ออนาคต”
ปัจจุบันเชอรี่ทำงานเพื่อสังคมและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ได้รวมตัวกับเพื่อน ๆ ตั้งกลุ่ม Little Help ช่วยชาวเนปาลที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และปลูกป่าที่ จ.แพร่
ร่วมทำกิจกรรมกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ออกแบบผลิตภัณฑ์จากกระดาษสา สนับสนุนจัดทำฝายชะลอน้ำ เป็นวิทยากรให้ความรู้ และสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยตื่นตัวเรื่องสิ่งแวดล้อมทั้งการกินการอยู่แบบธรรมชาติ
ไลฟ์สไตล์กรีน ๆ แบบกินคลีน ๆ
“นิปปอน-นวนันท์ บำรุงพฤกษ์” ผู้ประกาศข่าวและพิธีกรชื่อดัง เล่าถึงการกินคลีนเพื่อสุขภาพว่า หลายคนเข้าใจว่ากินคลีน กินกรีน แล้วจะต้องสุขภาพดี หรือกินเพื่อลดน้ำหนัก ก็ไปหาสูตรมากมายทั้งคีโต โลว์คาร์บ แต่จริง ๆ แล้วการกินคลีนและการกินกรีนต้องหาสิ่งที่เหมาะสำหรับตัวเรา หาแบบที่เราทำโดยไม่ฝืน ไม่เครียด
ถ้าเราบังคับร่างกายว่า ห้ามกินน้ำตาลเด็ดขาด หรือต้องน้ำตาล 0% กินแต่ผัก ห้ามโน่นห้ามนี่ ร่างกายจะเครียด สุดท้ายแทนที่จะเป็นผลดี กลับกลายเป็นผลเสีย ดังนั้น นิยามการกินแบบกรีนกรีนของนิปปอนคือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และบาลานซ์ทั้งร่างกายและจิตใจ
หนึ่งในความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของคนกินคลีน คือต้องกินแต่ผักใบเขียว งดเนื้อสัตว์ติดมัน ในฐานะคนที่เคยทำผิดพลาดมาก่อน บอกเลยว่า การที่เรากำหนดสิ่งต่าง ๆ เข้มงวดเกินไปจะทำให้ร่างกายเราเครียด ทำได้ไม่นาน สุดท้ายก็ล้มเลิก ไปไม่ถึงเส้นชัย ไม่ยั่งยืน
การเลือกกินคลีนให้ได้ประโยชน์สูงสุด ต้องสนุกกับการทำ ท้าทายตัวเอง ค้นหาแรงบันดาลใจทำเมนูอร่อย ๆ ที่ดีต่อสุขภาพ จะทำให้เรากินอาหารแบบไม่ซ้ำ กินได้ไม่เบื่อ
แม็กซีน-อินทิพร แต้มสุขิน
คลีนต่อใจแล้วต้องคลีนต่อโลก
“แม็กซีน-อินทิพร แต้มสุขิน” นักเล่าเรื่องสุขภาพ กล่าวเห็นด้วยกับนิยามการกินแบบกรีนกรีนของนิปปอน คือ “ต้องหาความสมดุลให้เจอ”
การมีสุขภาพดี ไม่มีสูตรสำเร็จ เราต้องฟังร่างกาย และร่างกายจะบอกได้ดีที่สุดว่า เราต้องการหรือไม่ ต้องการอะไร ชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไร
คำว่าคลีนไม่ใช่แค่เรื่องของอาหารที่กินเข้าไป แต่ต้องดูว่าลำไส้ ระบบขับถ่ายเราคลีนไหม ผิวเราคลีนไหม สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดว่า ร่างกายเราสมดุลแล้ว หรือต้องปรับตรงไหนหรือไม่ อย่างไร
เธอทั้งสองได้เตือนคนรักสุขภาพถึงเรื่องของความยั่งยืนว่า ไม่ใช่แค่ยั่งยืนเฉพาะโลกเท่านั้น แต่เราต้องรักตัวเราเองด้วย บางครั้งต้องเลือกกินอาหารสุขภาพ เลือกกินอาหารคลีน แต่กลับใส่กล่องโฟม กล่องพลาสติก ซึ่งเราอาจจะสะสมไมโครพลาสติกหรือสารอันตรายโดยไม่รู้ตัว
สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ แค่ลองปรับหรือเปลี่ยน ชีวิตเราก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีทั้งสุขภาพตัวเราเองและเป็นผลดีกับโลกใบนี้ด้วย
สุดท้ายระดับตัวแม่ที่แคร์โลกได้ฝากถึงคนทุกรุ่นว่า การใส่ใจในเรื่องของต้นทางการผลิตเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เราอย่าลืมฟังร่างกายตัวเอง ฟังเสียงโลกร้อง ตอนนี้โลกกำลังร้องไห้อยู่ เนื่องจากสภาวะโลกร้อนทวีความรุนแรงขึ้น เป็นอันตรายใกล้ตัว
ถ้าเราร่วมกันปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เลือกกิน เลือกใช้ ลดการใช้ทรัพยากรให้มากที่สุด โลกก็จะเย็นลง
ถ้าเป็นไปได้อยากให้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้ปุ๋ยหรือเคมีน้อยที่สุด เพื่อลดผลกระทบกับโลก รวมถึงการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ และการสั่งอาหารให้พอดี กินให้หมดจาน จัดการแยกขยะ เศษอาหารให้ถูกหลัก
โลกก็จะยิ้มและให้อภัยเรา
ข้อมูล/ภาพ : ประชาชาติธุรกิจ


