“ภูมิธรรม” พอใจ “ชเวโก๊กโก่” ลดใช้ไฟครึ่งหนึ่ง มั่นใจก.พ. ตัดสัญญาณครบ

“ภูมิธรรม” พอใจทุกหน่วยงานจับมือแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ รับตัดไฟชายแดนเมียนมาช้าเพราะคำนึงเรื่องมนุษยธรรม การันตีภายในเดือนนี้ ตัดสัญญาณเน็ตได้หมดแน่

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 08.20 น. ที่กองบิน 6 กองทัพอากาศ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปตรวจราชการและประชุมติดตามการปฏิบัติงานสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดและแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์ภายหลังตัดไฟแล้วเมื่อวานนี้ (5 ก.พ. 68) ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก

โดยนายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นเครื่องว่า มันเพิ่งขั้นตัดเท่านั้นเอง ยังสรุปไม่ได้ แต่ดูแล้วในชายแดนไทยไม่น่าจะมีปัญหาอะไร สิ่งที่กระทบกับชายแดนมากน้อยแค่ไหนจะต้องประเมิน อย่างไรก็ตาม เรื่องความเสียหายทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นบ้างหรืออะไรบ้าง เราก็ได้ประเมินแล้วถึงได้ตัดไฟ มันเป็นเรื่องใหญ่ที่กระทบต่อคนทั้งประเทศ แหล่งกำเนิดมันอยู่ใกล้กับเรา และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อาชญากรรมเพิ่มขึ้น

“วันนี้เราร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา มีคำถามมีอะไรก็ได้ แต่อย่าพยายามทำให้เป็นประเด็น บางคนบอกว่ายังไฟใช้ได้อยู่เลย เราทำในประเทศเรา”

รอดูผลลัพธ์ แค่วันแรกอาจไม่เห็น

นายภูมิธรรม ย้ำว่า วันแรกที่ตัดไป อาจจะไม่เห็นอะไร แต่ที่ชเวก๊กโก่ก็ลดลงไปเหลือ 40% อย่าเพิ่งสรุป การประเมินตอนนี้ เราประเมินตลอดที่ไปดูวันนี้ เพื่อจะได้เห็นจริง หลังจากนี้ไปต้องดูว่าคดีคอลเซ็นเตอร์ลดลงหรือไม่ กระบวนการมีปัญหามากหรือไม่ คนออกมามากน้อยแค่ไหน

ส่วนการซื้อไฟฟ้าจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นายภูมิธรรม ระบุว่า ก็เป็นสิทธิ์ของเขาเหมือนกับเป็นอธิปไตยในประเทศเขา เขาอยากจะซื้อ เดี๋ยวไปซื้อคนอื่น ก็ว่ากันไป เราไม่มีสิทธิ์จะบอกว่าห้ามซื้อลาว เราจัดการในประเทศของเรา เดี๋ยวก็ต้องคุยกันอีก

“เพราะลาวก็คุยกับผมมาครั้งหนึ่งว่าต้องช่วยกันแก้ปัญหา แต่ตอนนี้เขาอุดตรงนั้น ตรงนี้ เขาก็พร้อมซีลชายแดนด้านเขาเหมือนกัน เพื่อแก้ปัญหาแต่เรายังไม่คุยไปถึงว่าวันนี้เราต้องทำอะไร การที่เขาต้องวิ่งไปหาฝ่ายที่อื่นเขาแสดงว่าเขามีปัญหา”

ยันไทยไม่ใช้อารมณ์ตัดสินใจ

นายภูมิธรรม ระบุว่า ได้สั่งการให้เข้มงวดมากขึ้นต้องขอรอดูสักหน่อย ส่วนกระบวนการลักลอบตอนนี้ ก็เป็นไปได้ แต่มีช่องทางไหนที่มีปัญหาเราก็จะอุดให้มีประสิทธิภาพที่สุด เมื่อเช้าได้มีข่าวอินเทอร์เน็ตตัดไม่ได้ ต้องไปดูว่าจริงหรือไม่

“ผมตัดไฟครั้งนี้ก็รู้อยู่ว่าเศรษฐกิจกระทบบ้าง แต่ก็ต้องเลือกเอา ตอนที่เราจะทำเราไม่ใช้อารมณ์ตัด เราใช้ว่ามีผลกระเทือนต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือไม่ ไทย-เมียนมา ไทย-จีน เราคำนึงถึงความสัมพันธ์ด้านมนุษยธรรม อย่าง กฟภ.บอกว่าหายไป 600 ล้าน ก็แค่ 0.1% อยากให้มองให้รอบด้านว่าเราพยายามแก้ไขปัญหา ต้องให้ความเป็นธรรมในการแก้ไขปัญหาด้วยไม่งั้นจะทำให้ยากลำบากมากขึ้น”

เมื่อถามว่าต้องใช้กรอบเวลาเท่าไหร่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า การประกาศกรอบเวลาก็ทำได้ แต่เวลานี้เราตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด เพราะฉะนั้นขณะนี้เราทำไปแล้วก็ดูไปด้วย ประเมินไปด้วย อย่าขอกรอบเวลามากเพราะเราทำแล้วทำต่อถ้าไม่ดีที่สุด

“ภูมิธรรม” นั่งหัวโต๊ะติดตามผลหลังตัดไฟ

ที่จ.ตาก นายภูมิธรรม เป็นประธานการประชุมติดตามและกำชับการปฏิบัติการแก้ไขปัญหายาเสพติด และอาชญากรรมชายแดน ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก

โดยมี พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ, พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม, พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จ.ตาก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กองกำลังนเรศวร หน่วยเฉพาะกิจราชมนู และส่วนราชการในพื้นที่ร่วมประชุมด้วย

นายภูมิธรรมเปิดเผยถึงผลลัพธ์ของมาตรการตัดไฟฟ้า 5 จุดในเมียนมาว่า ที่มาประชุมร่วมกันทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครอง, กสทช.และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้ดำเนินการตามมาตรการอย่างเต็มที่ ขณะที่ฝ่ายทหาร และตำรวจตระเวนชายแดนก็กำลังซีลชายแดนอย่างเต็มที่ เพื่อป้องกันผลกระทบจะเกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้กำลังไปตามแผนการของเรา

ตัดสินใจช้าเพราะห่วงสิทธิมนุษยธรรม

ส่วนข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่บอกว่า รัฐบาลดำเนินการล่าช้า เพราะเป็นเรื่องสำคัญเช่นนี้ ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และสิทธิมนุษยธรรม เนื่องจากในพื้นที่มีโรงพยาบาล ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเราก็ได้คาดการณ์มาอยู่แล้ว จึงได้ดำเนินการล่าช้า ซึ่งสาเหตุที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติเสร็จสิ้นแล้ว ยังไม่ตัดไฟฟ้าเลย เพราะว่า ต้องใช้กระบวนการแจ้ง เพื่อสื่อสารกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการต่างประเทศแจ้งรัฐบาลเมียนมา และให้ กฟภ. แจ้งกับบริษัทคู่สัญญา ซึ่งสิ่งที่ยืนยันได้จาก สมช.คือ เรื่องนี้เป็นภัยคุกคาม จึงเป็นเงื่อนไขให้ได้ดำเนินการ และทุกส่วนได้ดำเนินการไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ (5 ก.พ. 68) โดยเป็นไปตามกฎหมายธุรกิจและความมั่นคง

พอใจ “ชเวโก๊กโก่” ลดใช้ไฟครึ่งหนึ่ง

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า จะเห็นได้ว่า เมื่อวานนี้ที่เมืองชเวโก๊กโก่ มีการใช้ไฟฟ้าลดลงครึ่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการเซฟไฟฟ้าเพื่อใช้ หรืออย่างไรก็ตามแสดงให้เห็นว่า มาตรการนี้กระทบต่อเขา ซึ่งขณะนี้เขาก็ยังไม่มีปัญหา เพราะได้มีการลดการใช้ไฟฟ้าลง แต่ถ้าหากโรงพยาบาลฝั่งเมืองเมียวดี มีผู้ป่วยฉุกเฉิน เราก็ไม่ได้ปิดกั้น ที่โรงพยาบาลที่แม่สอดก็พร้อมรับอยู่แล้ว โดยคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม

นายภูมิธรรม ยังย้ำว่า การดำเนินการเรื่องนี้ สิ่งสำคัญคือ การรักษาผลประโยชน์ของคนในประเทศไทยเป็นหลัก เพราะคนไทยได้รับผลกระทบกับเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก บางคน เช่นข้าราชการบำนาญที่เก็บเงินมาทั้งชีวิต โดนดูดเงินไปเพราะไม่เข้าใจระบบ พร้อมย้ำกับเจ้าหน้าที่ให้เคร่งครัดกับการดำเนินการอย่างเต็มที่ หากมีปัญหาจะมีทั้งคุณ และโทษ จึงต้องทำงานอย่างเต็มความสามารถ ยึดหลักนิติรัฐนิติธรรม ซึ่งเรื่องของเศรษฐกิจก็ต้องขอประเมินก่อน แม้ กฟภ.จะขาดรายได้ไป ก็ให้ กฟภ. ไปจัดหารายได้ทดแทนเอง เนื่องจากความมั่นคงรอไม่ได้ ถือเป็นเรื่องที่พอรับได้

การันตีตัดสัญญาณเน็ตจบเดือนนี้

ขณะที่เรื่องของสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ดำเนินการตัดสัญญาณตั้งแต่ปี 2566 แล้ว แต่ไม่ได้มีความต่อเนื่อง ซึ่งช่วงเช้าตอนนี้ได้พูดคุยกับศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ที่ได้แจ้งว่า ภายในเดือนนี้ สัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เป็นปัญหาทั้งหมดจะต้องถูกตัดออก ส่วนที่มีความจำเป็นบางส่วนก็จะต้องมีการลดระดับลงมาในการส่งสัญญาณ ซึ่งเป็นไปตามสภาพของแต่ละพื้นที่

ส่วนเรื่องของการซื้อขายน้ำมันจาก สปป.ลาว แล้วข้ามมาที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ตนได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่มี เป็นแค่ข่าวลือโคมลอย

ส่วนที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 พบว่า มีการซื้อน้ำมันจาก สปป.ลาวจริง ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของรัฐบาลเมียนมา หากปล่อยให้มีการซื้อ และเกิดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมย้ำว่า เรื่องนี้อย่าคิดเยอะ อย่าไปจินตนาการ แต่ขอให้ดูว่า ประเทศเราได้ประโยชน์อะไร ช่วยกันแก้ไขดีกว่า

เสนอคุยสปป.ลาว-กัมพูชา เพิ่ม

ขณะที่การซื้อขายไฟฟ้าที่จังหวัดตาก เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นไปได้ยากมาก ที่จะนำเสาส่งไฟฟ้ามาจาก สปป.ลาว คาดว่าจะไม่คุ้มค่า ซึ่งหากจะแก้ปัญหานี้ให้สำเร็จทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ซึ่งตนได้พูดคุยกับนายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และจะคุยกับเมียนมาด้วย ซึ่งอาจจะไม่พอแล้ว เพราะเราเคยเสนอว่าต้องมีการพูดคุยกับ สปป.ลาว และทางการกัมพูชาด้วย ซึ่งหากคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไกลเกินไป ก็ดำเนินการเท่านี้ไปก่อน

หากจะไปคิดถึงที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะทะลักเข้าไปที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งก็ต้องไปคิดอีกมาตรการหนึ่ง ต่างประเทศก็วิธีการ ตนไม่กังวลอะไร และไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ เพราะตนพูดไปชัดแล้วว่า ให้เพิ่มมาตรการที่เข้มข้นขึ้น

พอใจมาตรการไทยเข้มข้น

เมื่อถามว่าขณะนี้มีการข้ามมาฝั่งไทย เพื่อมาซื้อน้ำมันค่อนข้างเยอะ จะมีมาตรการอย่างไรต่อไป นายภูมิธรรม ระบุว่า เดี๋ยวขอดูก่อน คิดว่าประชาชนไทยไม่เดือดร้อนอะไร ส่วนนี้ได้ยินข่าวว่าเขาเข้ามาเติมน้ำมัน และเมื่อดูจากที่เราปฏิบัติแล้ว เรายังผ่อนปรน หากนำรถเข้ามามายังประเทศไทย และเติมน้ำมันใส่ถังกลับไป ซึ่งหลังจากประเมินแล้ว ค่อยว่ากันอีกที และขณะนี้เราก็ควบคุมสินค้าออกทั้งหมด คำว่าน้ำมัน ในพระราชบัญญัติ หมายถึงองค์ประกอบทั้งหมด ทั้งแก๊ส เบนซิน ดีเซล รวมถึงโซลาร์เซลล์ด้วย จึงคิดว่าเราพยายามทำให้ครบถ้วน และบอกทุกคนแล้วว่า ในทางปฏิบัติมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ให้ประสานเราได้ และให้ สมช. เป็นตัวจัดการแก้ปัญหา วันนี้มาดูก็พึงพอใจ และคิดว่าทุกคนพร้อมแล้ว หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกประชุมเจ้าของท่าข้ามทั้ง 59 ท่า ซึ่งเป็นจุดผ่อนปรน ก็จะดำเนินการทันที โดยส่วนมากจะไปหนักที่จังหวัดกาญจนบุรี

พรุ่งนี้ทราบผลมาตรการตัดไฟ

นายภูมิธรรม กล่าวถึงระยะเวลาที่กำหนดไว้ในการเป็นตัวชี้วัดของมาตรการเหล่านี้ ว่า ทำให้เต็มที่มากที่สุด ขอประเมินมาตรการที่สอดรับกับความเป็นจริง พรุ่งนี้ มะรืนนี้ ก็เสร็จได้ จึงบอกให้ทุกคนรายงานสถานการณ์เฉพาะหน้ากันตลอด และหากมีอะไรเปลี่ยนแปลง จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

พอใจมาตรการไทยเข้มข้น

พรุ่งนี้ทราบผลมาตรการตัดไฟ

“ภูมิธรรม” พอใจ “ชเวโก๊กโก่” ลดใช้ไฟครึ่งหนึ่ง มั่นใจก.พ. ตัดสัญญาณครบ

สส.ปชน. นำผู้สมัคร นายก อบจ.สมุทรปราการ ร้องสภาฯ ชี้ เลือกตั้งส่อทุจริต

“ทวี” กดปุ่มเผายาเสพติด หวังสิ้นปีทำให้ชาวบ้านรู้สึกยาเสพติดเป็นศูนย์