สถานการณ์ทางการเมืองไทยกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง เมื่อ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตัดสินใจ ยื่นฟ้อง น.ส.รักชนก ศรีนอก และ นายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส. พรรคประชาชน ในข้อหาหมิ่นประมาท โดยเรียกค่าเสียหายรวม 50 ล้านบาท จากการกล่าวหาว่า สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ซื้ออาคาร Skyy9 ย่านพระราม 9 ในราคาสูงกว่าปกติ ซึ่งนำไปสู่กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม

พรรคประชาชนใช้โอกาสนี้สร้างกระแสทางการเมือง

หลังจากถูกฟ้องร้อง พรรคประชาชนไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายไป แต่กลับใช้เป็นเครื่องมือขยายฐานเสียง โดยอ้างว่า การฟ้องร้องของสุชาติเป็นความพยายาม ปิดกั้นการตรวจสอบของฝ่ายค้าน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของพรรคที่มุ่งเน้นเรื่อง ความโปร่งใสและการตรวจสอบอำนาจรัฐ

ไอซ์ รักชนก และ สหัสวัต ออกมาเคลื่อนไหวทันที โดยยืนยันว่า พวกเขามีสิทธิ์ตั้งคำถามและตรวจสอบการใช้เงินของสำนักงานประกันสังคม เนื่องจากเป็นงบประมาณที่มาจากเงินสมทบของประชาชน พวกเขายังเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขายอาคาร Skyy9 ซึ่งสร้างกระแสความสนใจให้กับประชาชนจำนวนมาก

นอกจากนี้ การที่สื่อหลักหลายแห่งนำเสนอข่าวนี้ ทำให้พรรคประชาชน ได้รับพื้นที่สื่อโดยไม่ต้องลงทุนในการโฆษณาเอง ซึ่งช่วยให้ชื่อเสียงของพรรคและบุคคลในพรรคได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นจากสังคม โดยเฉพาะกลุ่มประชาชนที่ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบภาครัฐ

ความเสี่ยงของพรรคประชาชน: หากแพ้คดีอาจเสียหายหนัก

แม้ว่าการใช้ประเด็นนี้เป็นเครื่องมือทางการเมืองจะช่วยให้พรรคประชาชนได้รับความสนใจ แต่ก็มีความเสี่ยงสูง หากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า คำกล่าวหาของพรรคประชาชนไม่มีมูล และตัดสินให้ฝ่ายนายสุชาติเป็นฝ่ายชนะคดี

หากสุชาติสามารถพิสูจน์ได้ว่า การซื้อขายอาคาร Skyy9 เป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้อง และไม่มีการทุจริต คดีนี้อาจกลับกลายเป็น ดาบสองคม ที่ย้อนกลับมาทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคประชาชนเอง ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลอาจใช้โอกาสนี้โจมตีว่า ฝ่ายค้านกล่าวหาด้วยข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนและสร้างกระแสทางการเมืองโดยไร้หลักฐาน

นอกจากนี้ พรรคประชาชนอาจต้องเผชิญกับ คดีฟ้องกลับ ซึ่งอาจทำให้แกนนำของพรรคเสียเวลาและทรัพยากรไปกับกระบวนการทางกฎหมายแทนที่จะมุ่งเน้นไปที่การดำเนินนโยบายหรือหาเสียงต่อไป

สะท้อนภาพรวมของศึกการเมืองนี้

การที่สุชาติยื่นฟ้อง น.ส.รักชนก และ นายสหัสวัต ทำให้ประเด็นอาคาร Skyy9 กลายเป็นศึกทางการเมืองที่เข้มข้นขึ้น พรรคประชาชนสามารถใช้โอกาสนี้สร้างกระแสความสนใจและตอกย้ำภาพลักษณ์ของพรรคในฐานะผู้ตรวจสอบอำนาจรัฐ แต่ก็ต้องเผชิญกับความเสี่ยงสูงหากศาลตัดสินให้สุชาติเป็นฝ่ายชนะ

คดีนี้จึงเป็นอีกหนึ่งบททดสอบสำคัญของพรรคประชาชนในการเล่นเกมการเมืองให้รอบคอบ และเป็นบทพิสูจน์ว่าสังคมไทยจะให้ความสำคัญกับการตรวจสอบภาครัฐมากแค่ไหน ในขณะเดียวกัน สุชาติ ชมกลิ่น ก็ต้องแสดงให้เห็นว่า การซื้อขายอาคาร Skyy9 เป็นไปอย่างโปร่งใส และการฟ้องร้องครั้งนี้เป็นไปเพื่อปกป้องเกียรติของตนเอง ไม่ใช่การปิดปากฝ่ายค้าน

ผลของคดีนี้จะเป็นอย่างไร ยังคงต้องติดตามกันต่อไป เพราะนี่อาจไม่ใช่เพียงคดีความธรรมดา แต่เป็นศึกทางการเมืองที่อาจส่งผลต่อคะแนนนิยมของทั้งสองฝ่ายในระยะยาว

ข้อมูล/ภาพ : ไทยรัฐออนไลน์ ,Thai PBS