กองทุน USO หรือกองทุนเพื่อการให้บริการโทรคมนาคมพื้นฐานอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ภายใต้การกำกับของ สำนักงาน กสทช. ใช้งบประมาณสะสมกว่า 82,000 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2555–2566 เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและบริการดิจิทัล แต่เมื่อเข้าสู่ปี 2567 ประชาชนกลับตั้งคำถามถึงผลลัพธ์ที่ควรได้ ในขณะที่เงินกองทุนเหลือเพียง 1,000 ล้านบาท โดยที่โครงการต่าง ๆ ยังคงมี “ภาพ” แต่ไม่อาจยืนยัน “ผล” ได้อย่างเป็นรูปธรรม
กองทุน USO คืออะไร? ใช้ทำอะไร?
กองทุน USO (Universal Service Obligation) เป็นเครื่องมือทางนโยบายที่ สำนักงาน กสทช. ใช้ในการสร้างความเท่าเทียมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล หรือพื้นที่ที่ไม่มีผู้ประกอบการใดต้องการลงทุน
รายได้ของกองทุนมาจากการจัดเก็บเงินร้อยละ 2.5 จากรายได้ของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม เช่น AIS, True, และ Dtac เพื่อนำมาใช้ในโครงการสาธารณะ อาทิ:
- การติดตั้ง Wi-Fi ฟรีประจำหมู่บ้าน
- การจัดตั้ง ศูนย์อินเทอร์เน็ต USO Net ในชุมชน
- การให้บริการอินเทอร์เน็ตฟรีแก่ โรงเรียนและ รพ.สต.
- การสนับสนุนกลุ่มเปราะบาง เช่น คนพิการและผู้สูงอายุ ให้เข้าถึงเทคโนโลยี
งบประมาณมหาศาล แต่ผลลัพธ์กลับคลุมเครือ
ในช่วงปี 2555–2566 กองทุน USO ได้รับการจัดสรรงบประมาณรวมแล้วกว่า 82,924 ล้านบาท แต่ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคอีสาน กลับพบว่า อินเทอร์เน็ตยังเข้าไม่ถึงอย่างแท้จริง
ตัวอย่างเช่น ศูนย์ USO Net ที่ควรเป็นแหล่งการเรียนรู้และบริการประชาชน กลับกลายเป็นเพียง ห้องว่างที่ไร้การใช้งาน หรือจุด Wi-Fi ที่ติดตั้งแล้ว ใช้งานไม่ได้ เพราะไม่มีการดูแลรักษา
ในโรงเรียนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) ครูและเจ้าหน้าที่บางรายต้องใช้อินเทอร์เน็ตส่วนตัวในการทำงาน เพราะ อินเทอร์เน็ตภาครัฐไม่เสถียรพอ หรือไม่สามารถใช้งานได้จริง
บทบาทของประธาน กสทช. ในการอนุมัติงบกองทุน
ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ซึ่งดำรงตำแหน่ง ประธาน กสทช. ปัจจุบัน ยังทำหน้าที่เป็น ประธานกรรมการบริหารกองทุน กทปส. ซึ่งเป็นผู้พิจารณาและกลั่นกรองโครงการที่ขอใช้งบประมาณจากกองทุน USO ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุม กสทช.
ตามรายงานการประชุมวุฒิสภาเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 ได้ชี้ให้เห็นถึงโครงสร้างอำนาจที่ รวมศูนย์ไว้ที่คณะกรรมการกองทุน โดยเฉพาะตำแหน่งประธานฯ ทำให้เกิดคำถามถึงความโปร่งใสในการจัดสรรงบ และประสิทธิภาพของโครงการที่อนุมัติไปแล้ว
งบประมาณลดฮวบในปี 2567 แต่ประชาชนยังไม่ได้สิทธิ
ข้อมูลล่าสุดระบุว่า ในปี 2567 กองทุน USO เหลืองบประมาณเพียง 1,000 ล้านบาท ขณะที่ความคาดหวังของประชาชนยังไม่เป็นจริงในหลายพื้นที่
ประชาชนยังคงเห็น ตู้ Wi-Fi, ป้ายศูนย์บริการ, และโครงการฝึกอบรม บางแห่งที่เปิดเพียงพิธีการ แต่ ไม่ได้รับบริการจริง หรือไม่สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ
อินเทอร์เน็ตคือสิทธิขั้นพื้นฐาน ไม่ใช่ของขวัญจากรัฐ
กองทุน USO ไม่ใช่เงินของรัฐโดยตรง แต่เป็น เงินที่ประชาชนจ่ายทางอ้อมผ่านผู้ให้บริการโทรคมนาคม ดังนั้น บริการที่ประชาชนควรได้รับ คือสิทธิพื้นฐาน ไม่ใช่เพียงโครงการที่ทำให้ดูว่า “มี”
คำถามสำคัญที่ควรถูกถามคือ:
- “ประชาชนได้สิทธิของตัวเองจริงหรือไม่?”
- “มีระบบตรวจสอบความคุ้มค่าของงบประมาณหรือไม่?”
- “หากโครงการล้มเหลว ใครต้องรับผิดชอบ?”

ข้อมูล/ภาพ : กทปส