หุ้นสหรัฐร่วงหนักหลังทรัมป์ประกาศภาษีนำเข้าใหม่

ตลาดหุ้นสหรัฐปั่นป่วนหลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าในคืนวันพุธที่ 2 เมษายน 2025 ส่งผลให้ดัชนี ดาวโจนส์ ดิ่งลงถึง 1,100 จุด ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกแสดงความกังวลถึงความเสี่ยงของสงครามการค้าระหว่างประเทศและผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐโดยรวม

ตลาดหุ้นตอบสนองทันทีต่อประกาศของทรัมป์

ในคืนวันพุธที่ผ่านมา ฟิวเจอร์สดัชนีดาวโจนส์ ดิ่งลงกว่า 1,000 จุดทันทีที่ ทรัมป์ แถลงข่าวจาก สวนกุหลาบ ในทำเนียบขาว โดยในที่สุดดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดลดลง 1,100 จุด หรือ 2.7% ขณะที่ ฟิวเจอร์สดัชนี S&P 500 ร่วง 3.9% และ Nasdaq-100 ตกลงถึง 4.7%

การตอบสนองอย่างรวดเร็วของตลาดสะท้อนความไม่มั่นใจต่อท่าทีแข็งกร้าวของรัฐบาลสหรัฐในเวทีการค้าระหว่างประเทศ แม้ ทรัมป์ จะยืนยันว่ามาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อ “ปลดปล่อยอุตสาหกรรมอเมริกัน” และลดการพึ่งพาสินค้านำเข้า

มาตรการภาษีที่กระทบคู่ค้าทั่วโลก

ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้เปิดตัว มาตรการภาษีขั้นต่ำ 10% สำหรับประเทศคู่ค้าทั้งหมด พร้อมเพิ่มภาษีแบบเจาะจงกับบางประเทศที่ถูกระบุว่า “ไม่เป็นธรรม” ในการค้ากับสหรัฐ ได้แก่ จีน สหภาพยุโรป และ ไต้หวัน

โดย จีน ถูกจัดอยู่ในลำดับสูงสุดของรายชื่อประเทศที่ได้รับผลกระทบ ด้วยอัตราภาษีใหม่ 34% ซึ่งเป็นการเพิ่มเติมจากภาษี 20% ที่เคยประกาศไปก่อนหน้า ทำให้ภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนรวมแล้วพุ่งขึ้นเป็น 54%

ทรัมป์กล่าวในถ้อยแถลงว่า “วันที่ 2 เมษายน 2025 จะถูกจดจำตลอดไปในฐานะวันที่อุตสาหกรรมอเมริกาถือกำเนิดใหม่ วันที่โชคชะตาของอเมริกาถูกทวงคืน และวันที่เราจะเริ่มทำให้อเมริกามั่งคั่งอีกครั้ง”

บริษัทอเมริกันได้รับผลกระทบโดยตรง

ราคาหุ้นของบริษัทชั้นนำในสหรัฐที่พึ่งพาสินค้านำเข้าตกลงอย่างหนัก โดย Nike และ Apple ร่วงลง 7% Amazon ลดลงมากกว่า 5% ขณะที่ Nvidia ขาดทุน 4.5% และ Tesla ลดลง 6% ภายในวันเดียว

นอกจากนี้ บริษัทรายย่อยอย่าง Dollar Tree และ Five Below ซึ่งมีต้นทุนการดำเนินงานจากสินค้านำเข้าสูง ยังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง โดยหุ้นลดลง 11% และ 15% ตามลำดับ

นักวิเคราะห์หลายรายแสดงความวิตกว่าค่าใช้จ่ายของภาคธุรกิจที่สูงขึ้นอาจส่งผลให้บริษัทต่าง ๆ ต้องลดการผลิต ลดการจ้างงาน หรือผลักภาระไปยังผู้บริโภค

ความกังวลต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจ

แม้ มาตรการภาษีของทรัมป์ จะถูกนำเสนอว่าเป็นเครื่องมือปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายเตือนว่าการขึ้นภาษีอาจส่งผลลบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ

คาเรน เรย์โนลด์ นักเศรษฐศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยอเมริกัน กล่าวว่า “หากทั้งภาคธุรกิจและผู้บริโภคเริ่มวิตกกังวลและลดการใช้จ่ายลง นั่นอาจเป็นจุดที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย”

ขณะที่ มาร์ก แซนดี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Moody’s Analytics ระบุชัดว่า มาตรการภาษีเหล่านี้คือ “เชื้อเพลิงสำหรับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ” ซึ่งอาจบั่นทอนความสามารถในการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐในระยะยาว

ทรัมป์, ภาษีนำเข้า, ตลาดหุ้นสหรัฐ, สงครามการค้า, เศรษฐกิจโลก

ข้อมูล/ภาพ : abc NEWS

วรภพ เผยรัฐบาลแค่ตั้งเป้าลดค่าไฟ ประชาชนยังจ่ายแพง

พีรพลจี้ชัชชาติกลางสภา เร่งแก้ปัญหาวัคซีนใกล้หมดอายุ