24 ชั่วโมงหลังเปิดให้ลงทะเบียนโครงการ เที่ยวไทยคนละครึ่ง เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ผู้ใช้จำนวนมากยังไม่สามารถสมัครผ่านแอปฯ Amazing Thailand และยืนยันตัวตนผ่านแอปฯ ThaID ได้ เนื่องจากระบบล่มจากผู้ใช้งานหนาแน่น รัฐมนตรีท่องเที่ยวรีบแจงสาเหตุ พร้อมปรับขั้นตอนเพื่อเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์แทนก่อน ชี้ชัดไม่ต้องรีบจอง ใช้สิทธิ์จริงตอนจ่ายเงินแล้วเท่านั้น

ปัญหาระบบล่มจากสองแอปหลักที่รับสมัคร

ระบบล่มตั้งแต่เช้าวันแรกต่อเนื่องเมื่อแอปฯ Amazing Thailand ประสบข้อผิดพลาด ล็อกอินไม่ได้ และกระโดดหลุดเครื่องประจำ ขณะเดียวกันแอปฯ ThaID ที่ใช้ยืนยันตัวตนก็เผชิญปัญหาใช้งานไม่เสถียร ส่งผลให้ทั้งการลงทะเบียนและการยืนยันตัวตนหยุดชะงักเต็มรูปแบบ จนทำให้เกิดสถานการณ์ “คอขวด” ของระบบ ThaID ที่รองรับผู้เข้าใช้งานจำนวนมากพร้อมกัน และส่งผลให้การทำงานไม่ทันตามปริมาณที่เข้ามามหาศาล

ททท. ในฐานะผู้รับผิดชอบหลัก ออกแถลงการณ์ขออภัยชัดเจน ระบุว่าได้รับทราบปัญหาและเร่งแก้ไขระบบโดยเร็วที่สุด พร้อมรายงานยอดผู้ลงทะเบียนสำเร็จแล้วประมาณ 188,675 ราย และยอดชำระเพียง 272 ราย ในขณะที่สิทธิ์ทั้งหมดยังเหลือกว่า 499,700 สิทธิ์ ณ เวลา 20.00 น. ของวันที่ 1 ก.ค.

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดย นายสรวงศ์ เทียนทอง เปิดเผยว่าปัญหาหลักมาจากระบบยืนยันตัวตนผ่าน ThaID ที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งกำลังเร่งแก้ไข พร้อมยืนยันว่าไม่ต้องรีบจองเพราะสิทธิ์จะถูกนับก็ต่อเมื่อมีการชำระเงินจึงค่อยได้รับสิทธิ์จริง

ปรับกลยุทธ์ ทันไหม?

เพื่อบรรเทาความล่มหนักในแอปฯ ททท. จึงเปลี่ยนกลยุทธ์ โดยเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” โดยตรงก่อน และตัดขั้นตอนยืนยันตัวตนผ่าน ThaID ออกชั่วคราว ส่งผลให้ผู้ใช้งานสามารถลงทะเบียนได้เร็วขึ้นแม้ยังไม่ยืนยันตัวตนทันที

ขั้นตอนนี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถสำรองสิทธิ์โดยไม่ต้องติดยืนยันตัวตนทันที ซึ่ง ThaID จะกลับมายืนยันตอนชำระเงินจองที่พักอีกครั้ง ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการลดการแออัดที่ระบบยืนยันตัวตน

นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังระบุว่า หากมีการตอบรับเป็นจำนวนมากจนสิทธิ์ 5 แสนเต็มเร็วมาก ก็อาจมีการพิจารณาเพิ่มสิทธิ์เพิ่มเติมต่อไป

แอพหน่วยงานรัฐ บทเรียนที่ไม่เคยถูกจำ

เหตุการณ์ระบบล่มครั้งนี้ตอกย้ำความจำเป็นให้ภาครัฐเตรียมความพร้อมรองรับผู้ใช้จำนวนมหาศาล พร้อมควบคุม “การจัดทราฟฟิก” ของระบบ ซึ่งควรแยกขั้นตอนยืนยันตัวตนไม่ให้ล่มในจังหวะปริมาณผู้ใช้สูงสุด

ในทางเทคนิคแล้ว กระทรวงมหาดไทยและ ททท. ควรประสานงานทำระบบสำรอง (fallback) หรือบัฟเฟอร์ช่วง peak time เพื่อให้การใช้งานไม่เกิดปัญหาอีกในอนาคต ซึ่งจริงๆแล้วเป็นปัญหาที่คาดเดาไม่ยาก และควรเป็นมาตรฐานที่หน่วยงานที่มีแอพสำหรับลงทะเบียนที่มีปริมาณผู้เข้าใช้มากๆต้องมีอยู่แล้ว