ที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการหญิง วัย 39 ปี ยื่นแจ้งความดำเนินคดีและร้องเรียนจริยธรรมร้ายแรงต่อสมาชิกวุฒิสภารายหนึ่ง ฐานล่วงละเมิดทางเพศ พร้อมเผยหลักฐานวิดีโอชัดเจน ชี้ต้องการสร้างบรรทัดฐานความปลอดภัยในสภา ไม่ยอมความ ไม่ไกล่เกลี่ย
วันที่ 8 กรกฎาคม 2568 น.ส.ณัฐสินี ภิญโญปิยวิศว์ วัย 39 ปี ซึ่งดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการ ชุดหนึ่งในวุฒิสภา ได้เดินทางเข้ายื่นเรื่องต่อคณะกรรมาธิการจริยธรรม วุฒิสภา เพื่อขอให้มีการตรวจสอบจริยธรรมร้ายแรงต่อ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) รายหนึ่ง ซึ่งเธอระบุว่าได้ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยได้แจ้งความไว้แล้วที่ สน.เตาปูน และมีหลักฐานเป็น คลิปวิดีโอจากสถานที่เกิดเหตุถึง 3 ชิ้น
เปิดใจทั้งน้ำตา ยันไม่ยอมความ ไม่ได้สมยอม
ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ณัฐสินีเปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ขณะเดินทางไปพบและพูดคุยกับ ส.ว. คนดังกล่าวที่ร้านขนมแห่งหนึ่ง ก่อนถูกชักชวนไปยังคอนโดมิเนียมย่านบางซื่อ โดยที่เธอเข้าใจว่าเป็นการพบเพื่อพูดคุยเชิงงาน แต่กลับถูกบังคับล่วงละเมิดอย่างรุนแรง แม้เธอจะแสดงการปฏิเสธและขัดขืนอย่างเต็มที่
เธอกล่าวทั้งน้ำตาว่า หลังเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตอย่างรุนแรง ต้องเข้ารับการรักษาอาการ โรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ (PTSD) และถึงขั้นต้องใช้รถเข็นในการเดินทาง เธอยืนยันว่าไม่เคยสมยอมหรือมีความสัมพันธ์ใดๆ กับ ส.ว. คนนั้น และไม่ประสงค์จะไกล่เกลี่ยหรือยอมความ พร้อมเดินหน้าใช้กระบวนการยุติธรรมทั้งทางแพ่งและอาญาอย่างถึงที่สุด

สังคมจับตา “สภาแห่งเกียรติ” ต้องรับผิดชอบ
กรณีนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อวงการการเมืองทันที โดยเฉพาะต่อภาพลักษณ์ของวุฒิสภา ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น “สภาแห่งผู้ทรงคุณวุฒิ” และมักกล่าวอ้างเรื่องจริยธรรมเป็นหลัก ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญตั้งข้อสังเกตว่า หากมีการพิสูจน์ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง และผู้กระทำเป็นสมาชิกวุฒิสภาที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบัน จะเข้าข่าย ความผิดจริยธรรมร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจส่งผลให้พ้นจากตำแหน่ง และถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อของ ส.ว. รายดังกล่าวอย่างเป็นทางการ โดยผู้เสียหายระบุว่าให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและคณะกรรมการจริยธรรมเป็นผู้ดำเนินการตามขั้นตอน
เดินหน้าแจ้งความ-ส่งสำนวนเตรียมฟ้อง
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.เตาปูน ยืนยันว่าคดีดังกล่าวมีความคืบหน้า และได้รวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึง คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด และ หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จากสถานที่เกิดเหตุครบถ้วนแล้ว เตรียมสรุปสำนวนส่งให้อัยการพิจารณาในเร็ววันนี้
ในขณะที่ทีมกฎหมายของน.ส.ณัฐสินี เตรียมยื่นหนังสือเพิ่มเติมต่อประธานวุฒิสภาเพื่อเร่งรัดการตั้งคณะกรรมการสอบจริยธรรม พร้อมเรียกร้องให้มีมาตรการปกป้องบุคลากรในสภาผู้หญิงและกลุ่มเปราะบางจากการถูกคุกคามในที่ทำงาน
กรณีนี้ไม่เพียงเป็นคดีความระหว่างบุคคล แต่ยังสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างในวงการการเมือง ที่ผู้มีอำนาจสามารถใช้อิทธิพลกดทับและข่มขู่บุคคลที่อยู่ในสถานะต่ำกว่า การที่ผู้เสียหายกล้าเปิดเผยตัวตนและหลักฐานอย่างตรงไปตรงมา ถูกมองว่าเป็น “จุดเริ่มต้น” ของการเปลี่ยนผ่านวัฒนธรรมสภาที่เน้นระบบอุปถัมภ์ สู่การตรวจสอบและรับผิดทางจริยธรรมอย่างแท้จริง
หลายฝ่ายในสังคมเรียกร้องให้วุฒิสภาเร่งดำเนินการสอบสวนอย่างโปร่งใส พร้อมเปิดเผยข้อมูลแก่สาธารณชน เพื่อฟื้นฟูความน่าเชื่อถือขององค์กร ไม่ให้ตกอยู่ในภาวะ “ปิดหูปิดตา” ต่อเหตุการณ์ที่บ่อนทำลายศักดิ์ศรีของสถาบันนิติบัญญัติ