วันนี้ (21 สิงหาคม 2568) ศาลรัฐธรรมนูญปิดกระบวนการไต่สวนพยานในคดีคลิปเสียงที่มีการกล่าวหาเกี่ยวข้องกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยศาลเน้นย้ำว่านี่เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ จึง ไม่อนุญาตให้มีการถ่ายทอดสด ขณะที่ศาลนัดอ่านคำวินิจฉัยต่อสาธารณะในวันที่ 29 สิงหาคม 2568 เวลา 15:00 น.
ศาลรัฐธรรมนูญได้ดำเนินการไต่สวนพยานในคดีคลิปเสียงซึ่งมีการกล่าวหาว่าเชื่อมโยงถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยการพิจารณาเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้า ท่ามกลางการจับตามองจากสื่อและประชาชน เนื่องจากผลคดีนี้อาจกระทบโดยตรงต่อสถานะผู้นำรัฐบาล โดยศาลได้เรียกพยานสำคัญขึ้นให้การดังนี้ :
- นายฉัตรชัย บางชวด, เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งเบิกความเกี่ยวกับมุมมองด้านความมั่นคงและกระบวนการตรวจสอบไฟล์เสียง
- น.ส.แพทองธาร ชินวัตร, นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกกล่าวหาได้ขึ้นให้ถ้อยคำต่อศาลโดยตรง เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและชี้แจงเจตนาในการสนทนาที่ถูกเผยแพร่ในคลิปเสียง
ทั้งสองปากเป็นพยานที่ศาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินว่าคลิปเสียงนั้นส่งผลต่อสถานะทางรัฐธรรมนูญของนายกรัฐมนตรีหรือไม่
ไม่อนุญาตให้ถ่ายทอดสด

ศาลฯเได้เน้นย้ำว่าคดีนี้มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง จึง ห้ามถ่ายทอดภาพและเสียงการไต่สวน และกำชับว่าห้ามนำเนื้อหาการไต่สวนไปเผยแพร่หรือบิดเบือนต่อสาธารณชน นอกจากนี้ ทั้งผู้สื่อข่าวและผู้เข้าฟังยังได้รับคำสั่งห้ามเผยแพร่ข้อมูลหรือรายละเอียดของคำเบิกความอย่างเด็ดขาด
นัดฟังคำวินิจฉัย วันที่ 29 สิงหาคม
ศาลจะนัดให้ผู้เกี่ยวข้องแถลงการปิดคดีภายในวันที่ 25 สิงหาคม จากนั้นใน วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2568 มีการนัด “แถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ” ตั้งแต่เวลา 09:30 น. และจะอ่านคำวินิจฉัยต่อสาธารณะในช่วง 15:00 น. ณ ห้องพิจารณาคดี ชั้น 3 ศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ
เดิมพันก้าอี้นายกฯ
คดีนี้ไม่เพียงเป็นการทดสอบหลักฐานและข้อกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นเกมชี้ชะตาทางการเมืองของ น.ส.แพทองธาร หากศาลพิพากษาว่าคลิปเสียงเป็นหลักฐานที่แสดงถึงการสิ้นสุดสถานะนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ เธออาจต้องลงจากตำแหน่งทันที ในทางกลับกัน หากคำวินิจฉัยชี้ว่าไม่มีกฎหมายให้สิ้นสุดสถานภาพ ก็จะยืนยันความมั่นคงของรัฐบาลและเสริมความเชื่อมั่นในสถานะนายกรัฐมนตรีของน.ส.แพทองธาร ให้มากยิ่งขึ้น