เมื่อเวลา 02.40 น. ของวันที่ 5 กันยายน 2568 ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงนครดูไบด้วยเครื่องบินส่วนตัว หลังออกจากสนามบินดอนเมืองเมื่อค่ำวันที่ 4 กันยายน โดยเดิมระบุปลายทางที่สิงคโปร์ แต่ต้องเปลี่ยนเส้นทางเนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไทยกักตัวนานถึง 2 ชั่วโมง ทำให้ไม่ทันเวลาปิดสนามบิน Seletar ที่สิงคโปร์ เจ้าตัวยืนยันจะกลับประเทศไทยไม่เกินวันที่ 8 กันยายน เพื่อไปศาลตามนัดในวันที่ 9 กันยายน
จากสิงคโปร์ สู่ ดูไบ

ทักษิณ ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองเวลา 19.17 น. ของวันที่ 4 กันยายน ด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว Bombardier Global 7500 โดยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองว่ามีจุดหมายปลายทางคือประเทศสิงคโปร์ เพื่อเข้ารับการตรวจสุขภาพกับแพทย์ประจำและทำธุระส่วนตัว
ข้อมูลจากแอปพลิเคชันติดตามเส้นทางการบิน Flightradar24 ระบุว่า เวลา 20.45 น. เครื่องบินเที่ยวบิน T7GTS ได้เบี่ยงเส้นทางออกจากเส้นทางตรงสู่สิงคโปร์ มุ่งหน้าไปทางทะเลอันดามันและมหาสมุทรอินเดีย ก่อนจะบินวนเหนือทะเลอันดามัน และจากนั้นเปลี่ยนทิศไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง
ต่อมา เวลา 00.15 น. ของวันที่ 5 กันยายน เส้นทางการบินถูกบันทึกชัดเจนว่ามุ่งสู่ นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเครื่องบินได้ผ่านน่านฟ้าอินเดียเข้าสู่อ่าวอาหรับ ก่อนลงจอดเวลา 02.40 น. ตามเวลาประเทศไทย ใช้เวลาเดินทางรวมกว่า 7 ชั่วโมง
“ทักษิณ” ชี้แจงผ่านโซเชียลมีเดีย

ก่อนเครื่องบินลงจอดไม่นาน ทักษิณ โพสต์ข้อความผ่านบัญชี X @ThaksinLive เวลา 02.07 น. อธิบายสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนเส้นทาง โดยระบุว่าถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไทยกักตัวสอบนานเกือบ 2 ชั่วโมง ทั้งที่ตนมีสิทธิเดินทางออกนอกประเทศได้ตามปกติ ทำให้ไม่ทันเวลาปิดสนามบิน Seletar ของสิงคโปร์
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อไม่สามารถลงสิงคโปร์ได้ จึงเลือกบินไปดูไบแทน เนื่องจากมีแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกและปอดที่ดูแลมาตั้งแต่ช่วงพำนักต่างประเทศ รวมทั้งมีโอกาสพบเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันนานกว่า 2 ปี โดยยืนยันชัดเจนว่า จะกลับประเทศไทยไม่เกินวันที่ 8 กันยายน เพื่อเข้าพบศาลตามนัดในวันที่ 9 กันยายน
กลับทันไหม? ต้องจับตาดู
การเปลี่ยนเส้นทางกะทันหันของ ทักษิณ กลายเป็นประเด็นที่สังคมการเมืองไทยให้ความสนใจอย่างมาก เนื่องจากเป็นการเดินทางออกนอกประเทศเพียงไม่กี่วัน ก่อนถึงวันนัดหมายขึ้นศาลที่ไทยในคดีสำคัญ การยืนยันว่าจะกลับมาในวันที่ 9 กันยายน ทำให้หลายฝ่ายเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดว่าเขาจะปฏิบัติตามคำพูดหรือไม่