ชาร์ลี เคิร์ก (Charlie Kirk) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอขององค์กรเยาวชนอนุรักษ์นิยม Turning Point USA ได้ถูกลอบยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2025 ขณะแสดงที่มหาวิทยาลัย Utah Valley University เมือง Orem รัฐยูทาห์ ขณะจัดงานในส่วนของทัวร์ชื่อ “The American Comeback Tour” โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าอาวุธเป็นปืนซุ่มยิงจากอาคารหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้เวที เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงกลางวันตรงบริเวณงานกลางแจ้ง มีผู้ชมประมาณ 3,000 คน และขณะนี้ยังไม่มีผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมโดยชัดเจน ความตึงเครียดทางการเมืองและความกังวลต่อความรุนแรงในชีวิตสาธารณะทวีความรุนแรงขึ้นทันทีหลังเหตุการณ์นี้
โดนลอบยิงเพราะเรื่องการเมือง?
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ 10 กันยายน 2025 ที่มหาวิทยาลัย Utah Valley University ในเมือง Orem รัฐยูทาห์ ขณะที่ ชาร์ลี เคิร์ก กำลังปราศรัยต่อหน้าผู้สนับสนุนและผู้เข้าร่วมงานกลางแจ้งประมาณ 3,000 คน
เจ้าหน้าที่ระบุว่าเสียงปืนดังมาจากอาคารที่อยู่ทางด้านหลังเวที บริเวณหลังคา (“rooftop”) ของอาคาร Losee Center ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 200–400 ฟุต (ราว 60–120 เมตร) จากจุดที่เคิร์กยืนพูด
หลังจากเสียงปืน ผู้เข้าร่วมงานเกิดความตื่นตระหนก เคิร์กล้มลงและได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงจากบาดแผลที่คอ มีเลือดไหลออก ผู้ชมวิ่งหนี เจ้าหน้าที่ได้รีบนำตัวเขาส่งโรงพยาบาลในสภาพวิกฤติและต่อมาได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว
ตำรวจและเอฟบีไอได้ปล่อยภาพผู้ต้องสงสัย ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ พร้อมกับรางวัลเงินสด $100,000 สำหรับเบาะแสที่นำไปสู่การจับกุมผู้ลงมือยิง
ผู้ว่าการรัฐยูทาห์กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็น การลอบสังหารทางการเมือง (political assassination) ซึ่งสะท้อนถึงความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ทางการเมืองของสหรัฐฯ

ชาร์ลี เคิร์ก กับบทบาทผู้สนับสนุน ทรัมป์
ชาร์ลี เคิร์ก เกิดในปี 1993 เป็นนักเคลื่อนไหวอนุรักษ์นิยม ผู้ร่วมก่อตั้งองค์กร Turning Point USA (TPUSA) ซึ่งเน้นการมีส่วนร่วมของเยาวชนอนุรักษ์นิยมในมหาวิทยาลัย และการฝึกอบรมกระตุ้นให้เยาวชนร่วมการเมืองในแนวทางอนุรักษ์นิยม

เขายังเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนแนวคิด Trumpism — คือ อุดมการณ์ที่สนับสนุนนโยบายและบุคลิกภาพของ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) เน้นเรื่องชาติ ศาสนา อุดมการณ์ประชานิยม (populism) และการต่อต้านการควบคุมอาวุธ, ต่อต้านสิทธิของกลุ่ม LGBTQ+ และวิจารณ์อย่างแรงต่อระบบเสรีนิยมใหม่ (liberalism) และการเมืองฝ่ายซ้าย
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เคิร์กมีบทบาทเป็นวิทยากร กล่าวสุนทรพจน์ในวิทยาลัยทั่วประเทศสหรัฐฯ และเป็นเสียงที่ได้รับความนิยมในวงการอนุรักษ์นิยม เช่น ผ่านโซเชียลมีเดีย พอดแคสต์ และกิจกรรมการเคลื่อนไหวเยาวชน ซึ่งทำให้เขามีอิทธิพลในการชักจูงผู้สนับสนุนทรัมป์ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนและนักศึกษามหาวิทยาลัย
ทรัมป์เองตอบโต้เหตุการณ์นี้ด้วยคำกล่าวว่า เคิร์กเป็น “ผู้พลีชีวิตเพื่อความจริงและเสรีภาพ” และได้สั่งให้ธงชาติสหรัฐฯ แขวนครึ่งเสาเพื่อน้อมรำลึก พร้อมทั้งแสดงความเสียใจต่อครอบครัวเคิร์ก และเรียกร้องให้สอบสวนผู้ลงมืออย่างเต็มที่
ความพอดีของ “Free speech”
หลังการลอบยิงนี้ มีการเรียกร้องและวิพากษ์วิจารณ์หลากหลายด้านทั่วสหรัฐฯ ฝ่ายการเมืองทั้งซ้าย–ขวา แสดงความเสียใจและบอกว่าเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในระบอบประชาธิปไตย
มีคำถามถึงเรื่อง ความปลอดภัย ในงานสาธารณะที่มีบุคคลมีบทบาททางการเมืองสูง ความสามารถของเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยและหน่วยงานความปลอดภัยในการป้องกันภัยคุกคาม–โดยเฉพาะจากอาคารหรือพื้นที่ที่ผู้ลงมืออาจซุ่มยิงได้จากที่สูง–ถูกตั้งคำถามอย่างเข้มข้น
นอกจากนี้ เหตุการณ์ยังจุดประกายให้เกิดการโต้เถียงเรื่อง เสรีภาพการแสดงออก (free speech) และว่าอุดมการณ์ที่แตกต่างควรมีพื้นที่อยู่ร่วมกันได้อย่างไรโดยไม่ยั่วยุให้เกิดความรุนแรง
อีกแง่มุมหนึ่งคือการจัดการข่าวสารและสื่อสังคมออนไลน์ วิดีโอบันทึกเหตุการณ์แพร่หลายอย่างรวดเร็ว มีเนื้อหาที่รุนแรงและบางชิ้นแชร์โดยไม่มีคำเตือน มีการวิจารณ์ว่าแพลตฟอร์มออนไลน์ควรมีบทบาทในการกรองเนื้อหารุนแรงหรือข่าวปลอมมากขึ้น
ใครคือ ผู้ต้องสงสัย?
ตัวตนผู้ลงมือยิงยังไม่ทราบแน่นอน แม้ว่ามีภาพผู้ต้องสงสัยที่ถูกเผยแพร่โดย FBI และหน่วยงานรัฐ ซึ่งภาพแสดงบุคคลสวมเสื้อแขนยาวสีดำ หมวกกันแดด และแว่นกันแดด อยู่บริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ
ยังไม่มีการยืนยันแรงจูงใจชัดเจนว่าเป็นเรื่องทางการเมืองโดยตรง หรือมีแรงจูงใจอื่นแฝงอยู่ เช่น ปัญหาส่วนตัว ความคิดสุดโต่ง หรือเอเจนด้าที่เกี่ยวข้องกับการเมืองระดับล่าง (local politics) หรือเครือข่ายอื่น ๆ ที่อาจเกี่ยวข้อง
เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม ตั้งแต่รอยนิ้วมือ รอยเท้า บันทึกจากกล้องวงจรปิด ภาพจากผู้ชมงาน และข้อมูลเสียงจากเหตุการณ์ เพื่อหาหลักฐานพิสูจน์ว่าอะไรคือจุดซุ่มยิงที่แท้จริงและใครเป็นผู้ลงมือ


