วันที่ 18 กันยายน 2568 ที่ทำการ พรรคเพื่อไทย นาย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แสดงความเห็นถึงกรณีกรมที่ดินประกาศยุติการเพิกถอนที่ดินเขากระโดง โดยตั้งข้อสังเกตว่าการตัดสินใจดังกล่าวสวนทางกับคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด และอาจสะท้อนถึงการที่ พรรคประชาชน มอบอำนาจทางการเมืองให้แก่ พรรคภูมิใจไทย จนกลายเป็นผู้คุมเกมอย่างเบ็ดเสร็จ ทั้งที่การจัดตั้งรัฐบาลยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์

คดีเขากระโดงไม่ควรพลิก!

นายภูมิธรรมกล่าวว่า ที่ดินเขากระโดงมีสถานะเป็นที่ดินพระราชทานมาตั้งแต่รัชกาลที่ 5 และออกพระราชกฤษฎีกายืนยันในรัชกาลที่ 6 ทำให้ไม่อาจเปลี่ยนสภาพสิทธิครอบครองได้ โดยการรังวัดของทั้งการรถไฟและกรมที่ดินในปี 2567 ต่างยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในกรรมสิทธิ์ของรัฐ แม้จะมีความคลาดเคลื่อนบริเวณรอบนอกก็ตาม

เขาย้ำว่า การพลิกสถานะที่ดินในลักษณะนี้ ไม่อาจถือว่าถูกต้องตามหลักกฎหมาย และผู้ที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องแสดงหลักฐานการได้มาโดยชอบธรรม ซึ่งแทบเป็นไปไม่ได้ พร้อมชี้ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นหัวใจสำคัญที่ไม่ควรถูกละเลย เพราะเกี่ยวพันโดยตรงกับการใช้ที่ดินของหลวง

ตั้งคำถามพรรคประชาชน เหตุไม่ยืนหยัดควบคุมรัฐบาล

ภูมิธรรมตั้งข้อสังเกตว่า ขณะเจรจาตั้งรัฐบาล พรรคประชาชนไม่ได้ยืนยันเงื่อนไขสำคัญเรื่องเขากระโดงและคดีฮั้วสว. ทั้งที่ตนเคยยกประเด็นนี้มาอภิปรายแล้ว แต่กลับถูกมองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ ผลลัพธ์คือการเปิดทางให้พรรคภูมิใจไทยขยับตัวอย่างเสรี

เขายังชี้ว่า พรรคประชาชนมีคะแนนเสียงสูงสุด แต่กลับไม่เข้ามาคุมกระทรวงสำคัญอย่างการคลังหรือแรงงาน ทั้งที่มีโอกาส ซึ่งการเลือกอยู่ข้างนอกเสมือนการ “ยื่นดาบ” ให้ภูมิใจไทยควบคุมทุกกลไกทั้งฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ

ยันทำหน้าที่เต็มที่แล้ว

นายภูมิธรรมยังกล่าวต่อว่า ตนได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและดำเนินการตามคำพิพากษาศาลมาอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง ตนพร้อมเพิกถอนการครอบครองภายในเดือนกันยายน แต่เมื่อสถานการณ์พลิกเช่นนี้ ความรับผิดชอบตกอยู่ที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน

ภูมิธรรมย้ำว่า ปัญหานี้สะท้อนถึงความไม่ชัดเจนของ MOA ระหว่างสองพรรค และทำให้สังคมตั้งคำถามว่าพรรคประชาชนกำลังทำหน้าที่ฝ่ายค้านหรือรัฐบาลกันแน่ พร้อมระบุว่าการเมืองช่วง 4 เดือนที่ผ่านมายังไม่มีความคืบหน้าในประเด็นรัฐธรรมนูญ มีเพียงการจัดการเพื่อรักษาผลประโยชน์ทางการเมืองของบางฝ่าย

ที่ดินเขากระโดง-ฮั้วสว. ปมใหญ่ที่ ปชน. ต้องตอบสังคม

นายภูมิธรรมทิ้งท้ายว่า กระแสสังคมสะท้อนชัดว่าประชาชนกว่า 80–90% เห็นว่าที่ดินเขากระโดงต้องถูกนำคืนสู่หลวง ขณะเดียวกันคดีฮั้วสว. และการใช้ถนนสาธารณะเป็นทางขึ้น–ลงอากาศยานก็เป็นเรื่องที่กระทบต่อสถาบันชาติ พรรคประชาชนจึงต้องแสดงท่าทีและรับผิดชอบต่อการตัดสินใจที่ทำให้พรรคภูมิใจไทยก้าวขึ้นมามีอำนาจล้นฟ้า