เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 3 ตุลาคม 2568 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ชี้แจงกรณีที่ไทยเตรียมดำเนินการให้ชาวกัมพูชาออกจากบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว ภายในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ โดยยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของประเทศไทย และการดำเนินการจะอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ไม่ใช่การผลักดันหรือการบังคับโยกย้าย แต่เป็นการเจรจาเพื่อให้ประชาชนกลับไปอยู่ในอาณาเขตกัมพูชาอย่างเหมาะสม
ไทยยืนยันใช้กฎหมายแก้ปัญหาพรมแดน
นายอนุทิน ระบุว่า การจัดการชาวกัมพูชาในพื้นที่ดังกล่าวจะอาศัยกฎหมายหลายฉบับควบคู่กัน พร้อมเน้นย้ำว่าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน การเจรจาจะถูกใช้เป็นเครื่องมือหลัก เพื่อสร้างความเข้าใจและหาทางออกร่วมกัน ไม่ใช่การผลักดันออกจากพื้นที่แบบเฉียบพลัน
นายกรัฐมนตรีอธิบายว่า วันที่ 10 ตุลาคมเป็นเพียงกรอบเวลาที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วเสนอไว้ ไม่ใช่เส้นตายบังคับใช้ เพราะการดำเนินงานต้องคำนึงถึงหลายมิติ ทั้งด้านกฎหมาย ความมั่นคง และสถานการณ์ชายแดน ซึ่งยังมีประเด็นละเอียดอ่อนอย่างการถอนอาวุธหนัก และการจัดกำลังในพื้นที่ที่ต้องเจรจากับฝ่ายกัมพูชา

ห่วงความปลอดภัยชายแดนและการปะทะ
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความกังวลเรื่องความปลอดภัยว่า ประเด็นที่อ่อนไหวที่สุดคือการปะทะตามแนวชายแดน การดำเนินการใด ๆ ต้องจัดลำดับความสำคัญอย่างรอบคอบ การย้ายชาวกัมพูชาออกไปจะต้องควบคู่ไปกับการเจรจาให้กัมพูชาถอนกำลังและอาวุธออกจากพื้นที่ เพื่อป้องกันความตึงเครียดและลดโอกาสการเผชิญหน้า
พร้อมกันนี้ นายกฯ ย้ำว่า หากกัมพูชาสามารถจัดหาพื้นที่สร้างชุมชนใหม่ในเขตแดนของตนเอง การเจรจาย่อมเดินหน้าได้ง่ายขึ้น และไทยก็พร้อมสนับสนุนแนวทางดังกล่าว เพื่อแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี
เร่งสำรวจพื้นที่ชายแดนและงบเยียวยา
ระหว่างการลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ในวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเผยว่า การเยียวยาผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนได้มีการเตรียมงบประมาณล่วงหน้าแล้ว โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้กันเงินไว้เพื่อช่วยเหลือประชาชน จึงไม่ใช่การอนุมัติใหม่เฉพาะการลงพื้นที่ครั้งนี้
นอกจากนี้ ยังมีแผนสร้างรั้วชายแดนเพิ่มเติมในบางพื้นที่ ซึ่งผ่านการอนุมัติในหลักการแล้ว โดยจะพิจารณาเฉพาะจุดที่จำเป็น ไม่ได้สร้างต่อเนื่องตลอดแนวชายแดนทั้งหมด เพื่อควบคุมสถานการณ์และรักษาความมั่นคง
เยียวยาผลกระทบทางจิตใจผู้ได้รับผลกระทบ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี นายฉัตรชัย บางชวด เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ เสนอแนวทางเยียวยาผู้ที่เสียชีวิตหรือได้รับผลกระทบทางจิตใจจากความเครียดในสถานการณ์ชายแดน นายกฯ ระบุว่า ถือเป็น “ผู้เสียชีวิตทางอ้อม” และจะต้องมีการตีความรายละเอียดให้รอบคอบ หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นผลมาจากภัยสงครามจริง รัฐบาลจะดูแล แต่จำนวนเงินเยียวยาอาจไม่มาก อย่างไรก็ดี ไทยยืนยันพร้อมให้การช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน