วันที่ 9 ตุลาคม 2568 สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองหลังการ ยุบสภา ว่าเป็น “จังหวะสวรรค์ทางการเมือง” ของนักการเมืองหลายกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการย้ายพรรคหรือเตรียมตัวลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่ ภายใน 30 วัน พร้อมเหน็บ กกต. “หลับสบาย ห้ามรบกวน”

“ยุบสภา” เปิดทางนักการเมืองย้ายพรรคใน 30 วัน

สมชัย ศรีสุทธิยากร อธิบายว่า หากการเลือกตั้งเกิดขึ้นจากการ ยุบสภา ไม่ใช่จากการครบวาระของสภาผู้แทนราษฎร นักการเมืองจะได้ประโยชน์หลายประการ โดยข้อแรกคือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่จะลงสมัครเลือกตั้ง สามารถเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเพียง 30 วันก่อนวันเลือกตั้ง เท่านั้น จากเดิมที่ต้องอยู่ในพรรคเดิมอย่างน้อย 90 วัน

เงื่อนไขนี้เปิดโอกาสให้เกิด “จังหวะสวรรค์” ของนักการเมืองที่ต้องการย้ายพรรค โดยสามารถลาออกจากพรรคเดิมหลังการยุบสภา และย้ายเข้าสังกัดพรรคใหม่ได้ทันทีภายในกรอบเวลา 30 วัน อย่างไรก็ตาม สมชัยเตือนว่า ต้องมีหลักฐานการลาออกที่ชัดเจน หากสมัครพรรคใหม่โดยไม่แจ้งลาออก อาจถูกตีความเป็นการเป็นสมาชิกสองพรรคพร้อมกัน ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย

ค่าใช้จ่ายหาเสียงเริ่มนับจากวันยุบสภาเท่านั้น

อดีตกกต.รายนี้ยังระบุว่า การ ยุบสภา ส่งผลต่อการนับระยะเวลาในการคำนวณค่าใช้จ่ายหาเสียงด้วย โดยกรณีสภาอยู่ครบวาระ ค่าใช้จ่ายจะถูกนับย้อนหลัง 180 วันก่อนวันเลือกตั้ง แต่หากเป็นการยุบสภา การนับค่าใช้จ่ายจะเริ่มต้น ตั้งแต่วันยุบสภา ถึงวันเลือกตั้งเท่านั้น

สมชัยชี้ว่า เงื่อนไขนี้ถือเป็นจังหวะทองของผู้สมัครและพรรคการเมือง เพราะสามารถใช้สื่อโฆษณา ป้ายประชาสัมพันธ์ หรือกิจกรรมรณรงค์ทางการเมืองล่วงหน้าได้ โดยค่าใช้จ่ายเหล่านั้นจะไม่ถูกนับรวมในบัญชีค่าใช้จ่ายหาเสียงหากดำเนินการก่อนวันยุบสภา

เหน็บแรง “กกต.หลับสบาย” ไม่จำกัดค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง

ในโพสต์ดังกล่าว สมชัยได้แสดงความเห็นเชิงประชดต่อการทำหน้าที่ของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยระบุว่า หาก กกต. เห็นว่าเงื่อนไขดังกล่าวอาจทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นธรรม เพราะไม่มีการจำกัดค่าใช้จ่ายที่เท่าเทียมกัน ก็สามารถออกมติให้นับรวมค่าใช้จ่ายตั้งแต่ก่อนยุบสภาได้

อย่างไรก็ตาม สมชัยได้เหน็บทิ้งท้ายว่า “ขอโทษ กำลังหลับสบาย ห้ามรบกวน” สื่อถึงการตั้งคำถามต่อบทบาทและความตื่นตัวขององค์กรอิสระในการกำกับดูแลความโปร่งใสของการเลือกตั้ง