เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 รัฐบาล อังกฤษ และ สหรัฐอเมริกา ประกาศคว่ำบาตรครั้งใหญ่ต่อเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติ “Prince Group” ซึ่งตั้งฐานปฏิบัติการใน กัมพูชา หลังพบว่ามีการ ค้ามนุษย์ บังคับแรงงาน และดำเนิน “ศูนย์หลอกลวงออนไลน์ (Scam Centers)” เพื่อหลอกให้เหยื่อทั่วโลกร่วมลงทุนในโครงการคริปโตปลอมและ โรแมนซ์สแกม สร้างความเสียหายรวมกว่า 520,000 ล้านบาท ถือเป็นปฏิบัติการคว่ำบาตรที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อังกฤษ-สหรัฐฯ ผนึกกำลังปราบ “Prince Group” ศูนย์หลอกลวงออนไลน์ข้ามชาติ
รัฐบาลอังกฤษเปิดเผยว่า เครือข่ายสแกมเหล่านี้ใช้วิธีโพสต์โฆษณางานปลอมบนโลกออนไลน์ เพื่อหลอกเหยื่อให้เดินทางมาทำงานในกัมพูชาและประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา ก่อนจะถูกกักขังและบังคับให้ทำงานหลอกลวงออนไลน์ ทั้งในรูปแบบ รักออนไลน์ (Romance Scam) และ การลงทุนคริปโตปลอม (Fake Crypto Investment)
อีเวตต์ คูเปอร์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ระบุว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเครือข่ายดังกล่าว “ทำลายชีวิตผู้คนจำนวนมาก” และนำเงินที่ได้ไปฟอกผ่านการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลอนดอน พร้อมย้ำว่า รัฐบาลอังกฤษจะเดินหน้าร่วมมือกับพันธมิตรนานาชาติ เพื่อปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ที่เชื่อมโยงกับการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง

สหรัฐฯ เปิดปฏิบัติการคว่ำบาตรครั้งใหญ่สุดในภูมิภาค
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ แถลงว่า การคว่ำบาตรครั้งนี้เป็นหนึ่งใน “ปฏิบัติการทางการเงินที่ใหญ่ที่สุด” เท่าที่เคยมีมาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยพุ่งเป้าไปยังบุคคลกว่า 146 ราย และนิติบุคคลอีกหลายแห่งที่เกี่ยวข้องกับ Prince Group
หนึ่งในผู้ถูกคว่ำบาตรคือ เฉิน จื้อ (Chen Zhi) มหาเศรษฐีลูกครึ่งจีน-กัมพูชา วัย 38 ปี ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานกลุ่ม Prince Group และถูกตั้งข้อหา สมรู้ร่วมคิดฉ้อโกงผ่านระบบสื่อสาร รวมถึง ฟอกเงิน จากศาลรัฐบาลกลางในบรู๊กลิน สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา
ยึดบิตคอยน์ 127,000 เหรียญ มูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาท
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) เปิดเผยว่า เฉินและพวกได้จัดตั้งค่ายแรงงานในกัมพูชา กักขังเหยื่อและบังคับให้หลอกลวงผู้คนให้ลงทุนในแพลตฟอร์มคริปโตปลอม ก่อนนำเงินที่ได้ไปฟอกผ่านธุรกิจพนันออนไลน์และเหมืองขุดคริปโต
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ สามารถยึด บิตคอยน์จำนวน 127,271 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 14,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 520,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็น “การยึดทรัพย์ดิจิทัลครั้งใหญ่ที่สุด” ในประวัติศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ โดยคาดว่ามีเหยื่อจากหลายประเทศทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากเครือข่ายนี้
เครือข่ายสแกมข้ามชาติในกัมพูชา: ศูนย์กลางอาชญากรรมดิจิทัลโลก
หน่วยงานด้านความมั่นคงระหว่างประเทศประเมินว่า กัมพูชาและประเทศเพื่อนบ้านกำลังกลายเป็นศูนย์กลางของอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลก ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายรวมกันกว่า 500,000 ล้านบาทต่อปี โดยหลายองค์กรอาชญากรรมใช้แรงงานบังคับจากเหยื่อค้ามนุษย์ และเชื่อมโยงกับการฟอกเงินผ่านตลาดอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจดิจิทัล
นักวิเคราะห์ระบุว่า การคว่ำบาตรของอังกฤษและสหรัฐฯ จะเป็นสัญญาณสำคัญให้ประเทศในภูมิภาคเร่งปราบปรามกิจกรรมผิดกฎหมายในรูปแบบ “Scam Centers” ที่กำลังระบาดหนักในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้