นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล เผยยังไม่ทราบข่าวแพทองธาร ชินวัตร ลาออกหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หลังประชุม ก.ตร. พร้อมโยนโฆษก สตช. แถลงผลประชุมและมาตรการปราบสแกมเมอร์
วันที่ 22 ตุลาคม 2568 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 1/2568 ว่า ยังไม่ทราบกรณี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โดยระบุเพียงว่าประชุมตั้งแต่เช้า ส่วนผลการประชุมเกี่ยวกับมาตรการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ ให้โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้แถลงรายละเอียด
นายกฯ ปัดตอบกรณี “แพทองธาร” ลาออกหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
หลังการประชุม ก.ตร. เสร็จสิ้นในช่วงบ่าย นายอนุทินได้สนทนากับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ นานราว 5 นาที ก่อนจะขึ้นรถกลับออกจากพื้นที่ โดยระหว่างนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีที่มีรายงานว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศลาออกจากตำแหน่ง
นายอนุทินกล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า “ยัง ประชุมตั้งแต่เช้า” พร้อมระบุว่า ยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้ยังไม่สามารถให้ความเห็นเพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวภายในพรรคเพื่อไทยอยู่ระหว่างการจับตาของสื่อมวลชนและนักวิเคราะห์ทางการเมืองว่า อาจนำไปสู่การปรับโครงสร้างภายในพรรคในระยะต่อไป
มอบโฆษก สตช. แถลงผลประชุม ก.ตร. และมาตรการปราบสแกมเมอร์
ภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งแรกของปี 2568 ซึ่งนายอนุทินเป็นประธาน ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงมติหรือแนวทางการดำเนินงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ ที่ยังคงสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในหลายพื้นที่
นายอนุทินกล่าวเพียงว่า “เดี๋ยวให้โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้แถลง” โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาการประชุม ทั้งนี้ คาดว่าในการแถลงข่าวของโฆษก สตช. จะมีการเปิดเผยแนวทางเชิงปฏิบัติในการบูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ เพื่อปรับปรุงมาตรการสกัดกั้นอาชญากรรมไซเบอร์และการหลอกลวงทางออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
จับตาท่าทีรัฐบาลต่อการปรับโครงสร้างพรรคเพื่อไทย
ประเด็นการลาออกของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร จากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สร้างแรงสั่นสะเทือนในแวดวงการเมืองไทย เนื่องจากเป็นหนึ่งในแกนนำรุ่นใหม่ที่ถูกจับตามองว่าจะมีบทบาทสำคัญในอนาคต ขณะที่ฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ยังไม่แสดงท่าทีชัดเจนต่อความเปลี่ยนแปลงในพรรคการเมืองฝั่งรัฐบาลผสม
นักวิเคราะห์ทางการเมืองมองว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจมีผลต่อทิศทางการเมืองไทยในช่วงต่อไป โดยเฉพาะการประสานงานระหว่างพรรคหลักในรัฐบาล ทั้ง ภูมิใจไทย และ เพื่อไทย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจและความมั่นคงภายในประเทศ
