กกต. เตรียมความพร้อมจัดประชามติควบเลือกตั้งทั่วไป นายกฯ ชี้การยกเลิก MOU 2543-2544 ต้องให้ประชาชนตัดสินใจ ขณะที่งบประมาณและการบริหารจัดการบัตรเลือกตั้งถูกวางแผนอย่างรัดกุม
วันที่ 24 ตุลาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี และ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่วมหารือแนวทางจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญควบคู่การเลือกตั้งทั่วไป พร้อมย้ำการยกเลิก MOU 2543-2544 ต้องให้ประชาชนตัดสินใจ การหารือเน้นเรื่องการบริหารจัดการบัตรเลือกตั้ง การออกเสียงประชามติ รวมถึงงบประมาณเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น ก่อนการยุบสภาฯ วันที่ 31 มกราคม 2569
กกต. เตรียมความพร้อมประชามติควบเลือกตั้ง
ภายหลังการหารือกว่า 1 ชั่วโมง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เปิดเผยว่า เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเบื้องต้นเกี่ยวกับกระบวนการทำงาน การบริหารงบประมาณ และกำหนดวันออกเสียงประชามติควบการเลือกตั้งทั่วไป โดยยังไม่ได้ลงรายละเอียดการตัดสินใจขั้นสุดท้าย
สำหรับการใช้บัตรเลือกตั้ง มีการวางแผนไว้ว่า สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส. จะแบ่งเป็นบัตรแบบเขตและบัญชีรายชื่อ ส่วนประชามติหากเกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือยกเลิก MOU 2543-2544 จะต้องใช้บัตรเพิ่มขึ้นประมาณ 4 ใบ เพื่อป้องกันความสับสนของผู้มีสิทธิ์และเจ้าหน้าที่
งบประมาณและมาตรการบริหารจัดการ
ประธาน กกต. ระบุว่า หากจัดประชามติพร้อมเลือกตั้งทั่วไป จะใช้งบประมาณประมาณ 9,000 ล้านบาท หากแยกจัดการจะสูงกว่า 10,000 ล้านบาท เนื่องจากมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 53 ล้านคน การรวมการออกเสียงในวันเดียวกันจึงคุ้มค่ากว่า และยังถือเป็นครั้งแรกที่สามารถออกเสียงประชามตินอกราชอาณาจักรตาม พ.ร.บ.ประชามติฯ ฉบับใหม่
ทั้งนี้ ยังต้องมีการหารือเรื่องลำดับการนับคะแนนระหว่างการเลือกตั้งทั่วไปและประชามติ เพื่อให้การดำเนินงานโปร่งใสและเป็นระบบ
นายกรัฐมนตรีย้ำจำเป็นต้องถามประชาชน
นายอนุทิน ย้ำว่า การยกเลิก MOU 2543-2544 เป็นนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภาแล้ว จึงต้องถามความคิดเห็นประชาชนก่อน ส่วนรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินงานจะมีความชัดเจนหลังหารือกับ กกต. อีกครั้ง โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะดำเนินการให้เร็วที่สุด เพื่อให้สอดคล้องกับการยุบสภาฯ วันที่ 31 มกราคม 2569
