“รังสิมันต์ โรม” จี้รัฐบาลตอบ ปมภาพ อนุทิน ร่วมเฟรม เบน สมิธ

กรณีภาพของ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ปรากฏร่วมเฟรมกับ เบน สมิธ ผู้ถูกตั้งข้อสงสัยเชื่อมโยงเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้ รังสิมันต์ โรม สส. พรรคประชาชน ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลชี้แจงอย่างเป็นทางการ โดยตั้ง 4 คำถามสำคัญเกี่ยวกับการดำเนินคดี การอายัดทรัพย์ การคงตำแหน่งบุคคลในรัฐบาล และอิทธิพลของทุนสีเทาในประเทศ ซึ่งสะท้อนความกังวลต่อความโปร่งใสของกระบวนการยุติธรรมและความเชื่อมั่นของสาธารณะในสถานการณ์ปัจจุบัน

คำถามต่อการไม่ออกหมายจับและหมายแดงต่อเบน สมิธ

รังสิมันต์ระบุว่า ภาพร่วมเฟรมดังกล่าวทำให้เกิดข้อสงสัยใหม่ว่าเหตุใด เบน สมิธ จึงยังไม่ถูกออกหมายจับ หรือหมายแดงของ Interpol ทั้งที่ถูกจับตาอย่างหนักในฐานะผู้มีบทบาทในเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ เขาตั้งคำถามว่ามีใครอยู่เบื้องหลังช่วยปกป้องหรือไม่ จนทำให้การดำเนินคดีล่าช้ากว่าที่สาธารณะคาดหวัง

ประเด็นนี้นำไปสู่ข้อถกเถียงเรื่องความจริงจังของรัฐในการติดตามตัวผู้ต้องสงสัยรายสำคัญ การไม่มีความคืบหน้าชัดเจนอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นในระบบบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะเมื่อผู้เสียหายจำนวนมากยังรอการเยียวยาและความคืบหน้าในคดีใหญ่ที่มีผลกระทบต่อประชาชนวงกว้าง

ข้อสงสัยมาตรการอายัดทรัพย์ว่าเป็นเพียงการลดกระแสสังคม

รังสิมันต์ตั้งคำถามต่อมาตรการอายัดทรัพย์สินว่าเป็นเพียงมาตรการชั่วคราว เพื่อบรรเทากระแสสังคมหรือไม่ เขาชี้ว่า หากท้ายที่สุดมีการคืนทรัพย์ให้เครือข่ายสแกมเมอร์ ก็จะยิ่งตอกย้ำข้อกังวลว่ารัฐบาลไม่ได้ดำเนินการอย่างจริงจังกับคดีทุนสีเทาขนาดใหญ่

ผู้เสียหายจากขบวนการสแกมเมอร์ต่างหวังว่าทรัพย์สินที่ถูกยึดจะสามารถนำมาบรรเทาความเสียหายได้อย่างแท้จริง ความไม่ชัดเจนของกระบวนการอาจกระทบต่อความเชื่อถือในนโยบายปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ของรัฐ และสร้างคำถามว่าการอายัดทรัพย์ครั้งนี้จะส่งผลเป็นรูปธรรมเพียงใด

ปมตำแหน่ง ร.อ. ธรรมนัสท่ามกลางข้อสงสัยเชื่อมโยงเบน สมิธ

รังสิมันต์กล่าวถึงประเด็นที่ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี ยังคงอยู่ในตำแหน่ง แม้สังคมตั้งคำถามถึงความเชื่อมโยงกับ เบน สมิธ เขาตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีภาพบางภาพที่ทำให้ไม่มีใครกล้าดำเนินการปลดออกจากตำแหน่ง แม้สถานการณ์จะอยู่ในความสนใจของสาธารณะ

ข้อสงสัยนี้สะท้อนถึงประเด็นความรับผิดชอบทางการเมือง ซึ่งมักเป็นหัวข้อถกเถียงในกรณีที่มีบุคคลในรัฐบาลถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องความเกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนหรือขบวนการผิดกฎหมาย ความกระจ่างของรัฐบาลต่อข้อกล่าวหาเช่นนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญต่อเสถียรภาพและความเชื่อมั่นทางการเมือง

อิทธิพลทุนสีเทาและคำถามต่อศักยภาพรัฐในการปราบปราม

รังสิมันต์ตั้งข้อสังเกตว่าขนาดเครือข่ายของขบวนการสแกมเมอร์ในประเทศไทยใหญ่โตเกินกว่าที่คาดคิด และสะท้อนถึงอิทธิพลของทุนสีเทาที่ฝังรากลึกในหลายภาคส่วน ภาพร่วมเฟรมดังกล่าวจึงไม่ใช่เพียงเหตุการณ์ย่อย แต่ฉายให้เห็นมิติความสัมพันธ์ที่สาธารณะเริ่มตั้งคำถามมากขึ้น

ประเด็นนี้นำไปสู่คำถามเชิงโครงสร้างว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีความกล้าและศักยภาพเพียงพอหรือไม่ ที่จะปราบปรามทุนสีเทาที่ขยายตัวและแทรกซึมในหลายธุรกิจ ท่ามกลางความคาดหวังของประชาชนที่ต้องการความจริงจังในการแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ

บางจากแจงปม ปปง.อายัดหุ้น 6,000 ล้าน ชี้เป็นกระบวนการตามกฎหมาย