ส.ว.แฉ กสทช. ค่าตอบแทนสูงกว่านายกฯ ค่ามือถือปีเดียวพุ่ง 21 ล้าน

วันที่ 21 กรกฎาคม 68 ในการอภิปรายของ ส.ว.ชิบ จิตนิยม สมาชิกวุฒิสภากลุ่มสื่อ ได้หยิบยกประเด็นความไม่โปร่งใสของ สำนักงาน กสทช. หลังเปิดเผยข้อมูลว่า ค่าตอบแทนของกรรมการ กสทช. นั้นสูงกว่าค่าตอบแทนของนายกรัฐมนตรี และมีงบค่าโทรศัพท์มือถือปีละกว่า 21 ล้านบาทชี้เป็นการใช้งบประมาณที่อาจไม่สอดคล้องกับบทบาทขององค์กรอิสระ

เงินเดือน กสทช. สูงกว่าค่า นายกฯ

ในการอภิปรายล่าสุด ส.ว.ชิบเปิดเผยว่า คณะกรรมการ กสทช. ได้รับค่าตอบแทนรายเดือนประมาณ 330,000 บาท สูงกว่านายกรัฐมนตรีซึ่งได้รับเงินเดือนเพียง 125,590 บาทต่อเดือน นั่นเท่ากับว่า กรรมการ กสทช. มีรายรับปีละมากกว่า 4 ล้านบาท ต่อยอดด้วยค่าเบี้ยประชุมและสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่อาจเพิ่มภาระงบประมาณเพิ่มเติมให้กับองค์กร ข้อเท็จจริงอ้างอิงจากการอภิปรายแสดงให้เห็นช่องว่างของการใช้งบที่ควรได้รับการตรวจสอบอีกครั้ง

ค่าโทรมือถือปีละ 21 ล้าน?

ส.ว.ชิบ ยังกล่าวว่ารายจ่ายค่าสื่อสารภายในองค์กรสูงถึงปีละ 21 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่ “สูงเกินจำเป็น” เมื่อเปรียบเทียบกับภารกิจหลักของ กสทช. ที่ดูแลเรื่องบริการโทรคมนาคมและคลื่นความถี่ให้มีความเสมอภาค ทั้งนี้ ส.ว.ย้ำว่าการใช้งบสาธารณะต้องโปร่งใสและชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่างงบที่ใช้จริงกับผลประโยชน์ที่ประชาชนควรได้รับ

ประเด็นค่าใช้จ่ายอื่นที่ยังไม่เคยอธิบาย

ก่อนหน้านี้เคยมีการนำเสนอข้อมูลเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศของ นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. ที่ถูกชี้ว่าใช้วงเงินเกินกว่าที่ระเบียบกำหนด (ไม่เกิน 5 ล้านบาท/ปี) โดยมีการเบิกค่าเดินทางเกินจาก 5 ล้านบาทเป็นจำนวน 6.5 ล้านบาทในช่วงเวลา 1 ปี 3 เดือน ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าสูงและอาจเกินความจำเป็นของภารกิจเพื่อหน่วยงานทางการโทรคมนาคม

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจจากบัญชีทรัพย์สินของนพ.สรณตามที่เปิดเผยโดย ป.ป.ช. ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 ระบุว่ามีทรัพย์สินรวมกว่า 254 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินฝาก หุ้น บ้านและที่ดินทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้มีข้อสงสัยว่า ทรัพย์สินดังกล่าวมีความสอดคล้องกับรายได้ปกติจากตำแหน่งหรือไม่

ส.ว.ชิบ ระบุว่า …องค์กรอิสระเช่น กสทช. ควรมีมาตรฐานสูงในเรื่องความโปร่งใส ก่อนที่จะเรียกร้องให้ประชาชนเชื่อถือและได้รับบริการโทรคมนาคมที่เป็นธรรม สิ่งนี้จึงเป็นโอกาสที่ กสทช. ต้องปรับบทบาทโดยเฉพาะเรื่องงบประมาณให้ทุกฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน

คดีน้องเมย กับความยุติธรรมที่ยังคงถูกตั้งคำถาม

“สุริยะ” ไม่การันตี ชี้อนาคตร่วมงานกับภูมิใจไทยขึ้นกับสมการเสียง