บอร์ดประกันสังคมไฟเขียวปรับสูตรคำนวณบำนาญ รองรับการปรับขึ้นค่าจ้างปี 2569
วันนี้ (11 มีนาคม 2568) คณะกรรมการประกันสังคม หรือ บอร์ดประกันสังคม ได้ประชุมและมีมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบให้ ปรับสูตรคำนวณบำนาญชราภาพ สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และ มาตรา 39 เพื่อเพิ่มความเป็นธรรมในการคำนวณสิทธิประโยชน์ โดยสูตรใหม่จะใช้แนวทาง CARE (Cumulative Average Revalued Earnings) ซึ่งเป็นการเฉลี่ยฐานเงินเดือนตลอดอายุงาน พร้อมกันนี้ คาดว่าจะเริ่มทยอยบังคับใช้พร้อมกับการปรับขึ้นค่าจ้างในเดือนมกราคม 2569 ครอบคลุมผู้ประกันตนปีละ 100,000 คน จากจำนวนผู้ประกันตนทั้งหมด 800,000 คน
การหารือ 3 ฝ่าย สู่ข้อตกลงร่วมปรับสูตรคำนวณใหม่
นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้มีการหารือร่วมกันระหว่าง ฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง และฝ่ายราชการ รวมถึง ประธานอนุสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน เพื่อกำหนดแนวทางที่เหมาะสมในการปรับปรุงสูตรคำนวณบำนาญชราภาพ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวได้รับการเสนอและพิจารณาตั้งแต่ปี 2563 ก่อนจะได้รับฉันทามติในวันนี้
นายษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กรรมการประกันสังคมฝ่ายผู้ประกันตน กล่าวว่า การปรับสูตรคำนวณครั้งนี้ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ประกันตนและนายจ้าง เนื่องจากเป็นการปรับปรุงให้สอดคล้องกับฐานเงินเดือนที่แท้จริง โดยเฉลี่ยตลอดอายุงาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มสวัสดิการให้กับผู้ประกันตนและสร้างหลักประกันรายได้หลังเกษียณที่เป็นธรรมมากขึ้น
การทำประชาพิจารณ์ 90 วัน ก่อนบังคับใช้จริง
หลังจากที่บอร์ดประกันสังคมมีมติเห็นชอบในวันนี้ กระบวนการถัดไปคือการเปิด ประชาพิจารณ์ เป็นระยะเวลา 90 วัน เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกันตนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยกระบวนการดังกล่าวจะเป็นก้าวสำคัญในการปรับปรุงให้เกิดความเหมาะสมก่อนการบังคับใช้จริง
นายธนพงศ์ เชื้อเมืองพาน กรรมการประกันสังคมฝ่ายลูกจ้าง ให้ความเห็นว่า สูตรคำนวณบำนาญใหม่ไม่ได้เป็นการเพิ่มจำนวนเงินบำนาญโดยตรง แต่เป็นการสร้างความเป็นธรรมให้แก่ทุกฝ่าย โดยเฉพาะผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากระบบเดิมที่มีมานานกว่า 30 ปี ซึ่งอาจมีความเหลื่อมล้ำในหลายด้าน
ความคาดหวังจากทุกฝ่ายต่อการเปลี่ยนแปลง
ฝ่ายนายจ้างให้ความเห็นว่า ขออภัยที่ต้องใช้เวลากว่าที่มติดังกล่าวจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดี เนื่องจาก ผู้ประกันตนเริ่มให้ความสนใจและตื่นตัวมากขึ้น ทั้งนี้ ทั้งนายจ้าง รัฐบาล และผู้ประกันตนที่เป็นผู้จ่ายเงินสมทบ ต่างมีบทบาทสำคัญในการทำให้ระบบบำนาญเป็นธรรมและมีเสถียรภาพในระยะยาว
ในช่วงเวลา 90 วันของกระบวนการประชาพิจารณ์ ผู้ประกันตนควรให้ความสำคัญและเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น เพื่อให้มั่นใจว่าสิทธิประโยชน์ของทุกฝ่ายได้รับการพิจารณาอย่างรอบด้าน และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกันตนได้อย่างแท้จริง

ข้อมูล/ภาพ : Thai PBS