พระราหูย้ายราศี 2568 เปิดพิธีบวงสรวงสะท้อนความหวังของสังคมไทย

กลางเสียงประทัดและกลิ่นควันธูปที่ลอยตลบอบอวล ณ วัดสมานรัตนาราม จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 พิธีบวงสรวงรับส่ง “พระราหู” ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อรับการย้ายราศีครั้งสำคัญในรอบ 18 ปี ท่ามกลางความเชื่อที่หยั่งรากลึกในสังคมไทยว่า การเปลี่ยนผ่านของดวงดาวจะพลิกชะตาชีวิตได้จริง

ในพิธีนี้ ผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลมา ไม่ใช่เพียงเพื่อแสดงศรัทธา หากแต่เพื่อเติมเต็มบางสิ่งในใจที่ขาดหายไปจากความเป็นจริง ความหวัง

หางประทัดที่จุดถวายปรากฏเลข 95 และ 196 กลายเป็นเลขเด็ดทันที หลายคนรีบจด รีบส่งต่อ บางคนยกมือขึ้นพนมเบาๆ พลางกระซิบว่า “ขอให้ราหูเมตตา ลูกมีภาระเต็มบ่าแล้ว”

คนไทยไม่เคยหยุดเชื่อเรื่องโชคชะตา นั่นไม่ใช่สิ่งผิด ความศรัทธาเป็นพลังใจที่ทรงพลัง แต่เมื่อความหวังเหล่านั้นถูกวางอยู่บนพื้นฐานของโชคลางและเลขประทัด มากกว่าบนหลักประกันชีวิตที่มั่นคง นั่นต่างหากคือเรื่องที่ควรสะท้อนใจ

ในปี 2568 นี้ ราคาสินค้า ค่าไฟฟ้า ภาษี และค่าครองชีพต่างๆ ยังคงถาโถม ความช่วยเหลือจากภาครัฐดูเลือนราง หลายครอบครัวต้องหันไปพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่เพราะงมงาย แต่เพราะระบบที่ควรดูแลกลับเอื้อมไม่ถึง

คำทำนายจากหมอดูชื่อดังระบุว่า ราศีมีน กันย์ กุมภ์ และสิงห์ จะได้รับผลดีจากการย้ายราหู มีทั้งงาน เงิน และโชคเข้ามา แต่คำถามที่ต้องถามคือ คนที่ไม่อยู่ใน 4 ราศีนั้นล่ะ ใครจะยื่นมือช่วยพวกเขา?

พิธีกรรมทางศาสนาและความเชื่อเป็นสิ่งสวยงามในวัฒนธรรมไทย แต่การยึดโยงความอยู่รอดของผู้คนกับดวงดาว ย่อมสะท้อนรอยร้าวของระบบรัฐสวัสดิการที่ยังไม่ครอบคลุม

พระราหูย้ายราศีครั้งใหญ่ในรอบ 18 ปี ไม่ใช่แค่เหตุการณ์ทางดาราศาสตร์ หากแต่เป็นภาพฉายความเชื่อ ความหวัง และเสียงเรียกร้องที่เงียบงันของประชาชน ที่ยังคงต้องพึ่ง “พรจากฟ้า” เพราะ “สิทธิจากรัฐ” ยังไม่เพียงพอ

พระราหู, ราหูย้ายราศี, เลขเด็ด, บวงสรวง, สะท้อนสังคมไทย

ข้อมูล/ภาพ : ข่าวสด

“ถอยทหารจากปราสาทตาเมือนธม” ไม่ใช่ยกแผ่นดิน ถอดรหัส MOU 43 กับบทเรียนชายแดนโลก

ดราม่าถุงยังชีพพีระพันธุ์ สะท้อนการเมืองไทย เสธหิรีบชี้แจง