วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเจรจาการค้ากับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) โดยระบุว่าทิศทางของการพูดคุยเป็นไปในเชิงบวก โดยเฉพาะในการประชุมผ่านระบบออนไลน์เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทาง USTR ได้ยื่นข้อเสนอให้ไทยพิจารณาใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ การเพิ่มรายการสินค้าเพื่อเปิดตลาด (Market access), การลดข้อกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers – NTB) และ การสนับสนุนการลงทุนของไทยในสหรัฐฯ

ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยฯ ยืนยันว่า ข้อเสนอของไทยที่ส่งไปได้รับการตอบรับอย่างน่าพอใจจากฝั่งสหรัฐ และทั้งสองฝ่ายต่างแสดงความมุ่งมั่นที่จะปิดดีลให้ได้ภายในวันที่ 1 สิงหาคม 2568

Local Content ยังเป็นประเด็นอ่อนไหว

หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ยังอยู่ระหว่างการหารือคือ ข้อกำหนดด้านสัดส่วนวัตถุดิบในประเทศ (Local Content) ที่อาจส่งผลต่อการจัดกลุ่มสินค้าที่ได้รับสิทธิประโยชน์ภายใต้กติกาใหม่ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้ากว่า 10,000 รายการที่มีองค์ประกอบจากประเทศที่สาม ซึ่งถือเป็นประเด็นอ่อนไหวในการคำนวณมูลค่าการผลิต (RVC) และอาจกระทบต่อสถานะของสินค้าไทย

สหรัฐฯ ได้กำหนดกลุ่มวัตถุดิบที่ใช้ในการพิจารณา Local Content ไว้ 3 กลุ่ม ได้แก่

1. วัตถุดิบจากไทย, วัตถุดิบที่นำเข้าจากสหรัฐฯ และจากประเทศพันธมิตร
2. วัตถุดิบจากจีน
3. วัตถุดิบจากประเทศอื่นนอกเหนือจากกลุ่มแรกและที่สอง

ไทยจึงต้องประเมินและคัดกรองการใช้วัตถุดิบในภาคการผลิตอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบต่อความสามารถในการส่งออกและสถานะทางภาษี

พาณิชย์ไทยเตรียมพร้อมปรับข้อเสนอทันสถานการณ์

กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ได้เตรียมข้อมูลรองรับข้อเสนอของ USTR อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรายละเอียดด้าน Market access และมาตรการ NTB เช่น สัดส่วนการใช้วัตถุดิบ, มาตรฐานการผลิต และข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม

นายฉันทวิชญ์ ยอมรับว่า ข้อเสนอจากฝั่งสหรัฐมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้ฝ่ายไทยต้องมีความยืดหยุ่นและปรับข้อเสนอให้เหมาะสมและรวดเร็ว โดยทีมเจรจา “ทีมไทยแลนด์” พร้อมตอบสนองภายในกรอบเวลาที่จำกัด โดยเฉพาะเมื่อประเทศอื่นๆ ก็เร่งเจรจาในช่วงเวลาเดียวกัน

การเมืองไม่ใช่อุปสรรค แม้เจรจาเข้มข้น

แม้สถานการณ์การเมืองภายในประเทศจะมีความไม่แน่นอน แต่ฝ่ายไทยยืนยันว่า การเจรจาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศจะยังเดินหน้าต่อไป โดยมุ่งเน้นที่ผลประโยชน์ร่วมของประเทศ และการรักษาความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทยในตลาดสหรัฐฯ

ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยฯ เน้นย้ำว่า แม้การเจรจาจะลุล่วงหรือไม่ ไทยก็ต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว