สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาที่ บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ปะทุความตึงเครียดอีกครั้ง หลังกลุ่มชาวกัมพูชาหลายร้อยคน ส่วนใหญ่เป็น เด็ก ผู้หญิง และผู้สูงอายุ ถูกระดมเข้ามาประจันหน้ากับกำลังทหารไทย โดยมีการถือท่อนไม้และตะโกนกดดันเพื่อให้รื้อถอนป้ายประกาศคำสั่งย้ายออกจากพื้นที่บุกรุก ขณะที่ กองทัพภาคที่ 1 เปิดเผยว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการจัดฉากของทหารกัมพูชาเพื่อยั่วยุและสร้างภาพไปเผยแพร่ในเวทีนานาชาติ พร้อมย้ำว่าฝ่ายไทยยังคงควบคุมสถานการณ์ได้ และจะดำเนินคดีหากมีการละเมิดอธิปไตย
กัมพูชาใช้โล่มนุษย์ ประจันหน้าทหารไทย

บรรยากาศบริเวณ หลักเขตแดนที่ 46 ตึงเครียดเมื่อกลุ่มมวลชนกัมพูชารวมตัวกันประมาณ 150–200 คน โดยมีทั้งวัยรุ่นและผู้หญิงเด็กเล็ก ถือท่อนไม้ยาวกว่า 2 เมตร เดินประชิดแนวทหารไทย ขณะเดียวกัน ทหารกัมพูชายืนคุมเชิงอยู่ด้านหลังและมีการบันทึกภาพเหตุการณ์ตลอดเวลา
เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยที่นำโดย นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมกำลังทหารและตำรวจตระเวนชายแดน ได้วางกำลังเสริมทันทีเพื่อป้องกันเหตุบานปลาย โดยมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกนายใช้ความอดทนสูงสุดและหลีกเลี่ยงการปะทะโดยตรง
แผนยั่วยุหวังใช้เวทีนานาชาติกดดันไทย
พลตรีสุรวิชญ์ แดงจันทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 เปิดเผยว่า ทหารกัมพูชามีการระดมประชาชนจากนอกพื้นที่มาเสริมมวลชน เพื่อกดดันทหารไทยและสร้างความเข้าใจผิดในสายตานานาชาติ พร้อมย้ำว่าฝ่ายไทยดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมายและในดินแดนของตนเอง
ทั้งนี้ ป้ายประกาศที่ติดตั้งบริเวณ บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว มีเนื้อหาแจ้งเตือนให้ชาวกัมพูชา 170 ครัวเรือนที่บุกรุกออกจากพื้นที่ภายในเขตแดนไทย หากไม่ปฏิบัติตาม จะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484
แม่ทัพภาคที่ 1 ย้ำไม่เดินตามเกมกัมพูชา

ขณะเดียวกัน พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 พร้อมด้วยผู้ว่าฯ สระแก้ว ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมกำลังพลและให้กำลังใจประชาชน โดยเน้นย้ำการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานทหารและพลเรือน เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลามจนกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
พลโท อมฤต กล่าวว่าการเคลื่อนไหวของฝั่งกัมพูชามีเป้าหมายเพื่อสร้างแรงกดดันจากนานาชาติ แต่ไทยจะไม่เดินตามเกมดังกล่าว โดยจะใช้ข้อมูลข้อเท็จจริงและเวทีทางการทูตเป็นเครื่องมือผลักดันให้กัมพูชาปฏิบัติตามกติกาแทน
แม่ทัพภาคที่ 1 ระบุว่า ปัจจุบันการควบคุมพื้นที่ยังอยู่ภายใต้การจัดการของกองทัพไทยอย่างใกล้ชิด พร้อมเตือนว่าหากมีการทำลายป้ายประกาศหรือรุกล้ำเข้ามาในดินแดนไทย จะถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด
การประชุมชายแดนและแผนสร้างรั้วป้องกัน
ขณะเดียวกัน ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมเสนอแนวทางสร้างรั้วยาว 16 กิโลเมตร บริเวณหลักเขตแดนที่ 50–51 จังหวัดสระแก้ว เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันการบุกรุกซ้ำ โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาในหลักการ
นอกจากนี้ ไทยยังเตรียมประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 7–10 กันยายน ที่จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา และจังหวัดตราด เพื่อหาทางออกในเชิงทวิภาคีและยกระดับการสื่อสารบนเวทีนานาชาติ