รัฐบาลเตรียมเปิดโครงการ “คนละครึ่งพลัส” อย่างเป็นทางการวันที่ 15 ตุลาคม 2568 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี โดยเปิดให้ ร้านค้าและผู้ประกอบการรายย่อย เข้าร่วมผ่านแอปฯ ถุงเงิน ขณะที่ประชาชนสามารถใช้สิทธิผ่านแอปฯ เป๋าตัง ได้ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมนี้ ภาครัฐคาดหวังให้โครงการนี้ช่วยลดภาระค่าครองชีพ เพิ่มกำลังซื้อ และหมุนเวียนเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจกว่า 4.4 หมื่นล้านบาท
รัฐเดินหน้า “คนละครึ่งพลัส” กระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี
โครงการ คนละครึ่งพลัส เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่มุ่งกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ ภาครัฐร่วมจ่ายค่าสินค้าและบริการบางประเภทให้ประชาชน เพื่อบรรเทาค่าครองชีพและสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการรายย่อยทั่วประเทศ กำหนดระยะเวลาการใช้สิทธิ ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2568 รวมประมาณ 20 ล้านสิทธิ หรือจนกว่าจะครบวงเงินที่กำหนด
โครงการนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก โดยเฉพาะในกลุ่มร้านค้าชุมชน วิสาหกิจขนาดเล็ก และบริการสาธารณะ เช่น ขนส่งสาธารณะ ร้านอาหาร ร้านนวด และร้านค้าธงฟ้า ซึ่งสามารถรับเงินผ่านแอปฯ ถุงเงิน ได้โดยตรง

ขั้นตอนลงทะเบียนสำหรับร้านค้าใหม่ เข้าร่วม “คนละครึ่งพลัส”
ร้านค้าใหม่สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม – 19 ธันวาคม 2568 ที่จุดให้บริการของ กระทรวงมหาดไทย หรือ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา โดยต้องมีบัญชีธนาคารกรุงไทยและสมัครเป็นร้านค้าผ่านเว็บไซต์ www.ถุงเงินกรุงไทย.com
หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อย ระบบจะส่งผลการพิจารณาผ่าน SMS เมื่อได้รับการอนุมัติ แบนเนอร์โครงการคนละครึ่งพลัส จะปรากฏบนแอปฯ ถุงเงิน จากนั้นร้านค้าสามารถกดยอมรับเงื่อนไขและเริ่มรับชำระค่าสินค้าจากประชาชนได้ทันที พร้อมตรวจสอบยอดเงินเข้าออกผ่านแอปฯ ได้ตลอดเวลา
ร้านค้าเดิมจากโครงการคนละครึ่งเฟส 5 สมัครได้ทันทีผ่านแอปฯ
สำหรับร้านค้าที่เคยเข้าร่วมโครงการ คนละครึ่งเฟส 5 และผ่านเกณฑ์ สามารถเข้าร่วมโครงการใหม่ได้ทันที เพียง อัปเดตแอปฯ ถุงเงินเป็นเวอร์ชันล่าสุด โดยจะมีการแจ้งเตือนอัตโนมัติภายในแอปฯ เมื่อได้รับสิทธิเข้าร่วม ร้านค้าสามารถกดยอมรับข้อตกลงและเริ่มรับชำระจากลูกค้าได้เช่นเดียวกัน
ขั้นตอนทั้งหมดถูกออกแบบให้สะดวกและรวดเร็ว เพื่อให้ร้านค้ารายเดิมสามารถกลับมาเข้าร่วมได้โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ลดภาระด้านเอกสารและระยะเวลาในการตรวจสอบข้อมูล
ร้านค้าแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี เริ่มผูกระบบได้ 3 พ.ย.
ร้านค้าที่มีการขายอาหารผ่านแพลตฟอร์ม ฟู้ดเดลิเวอรี เช่น Grab, LINE MAN หรือ Robinhood สามารถเชื่อมต่อระบบรับชำระผ่านแอปฯ ถุงเงิน ได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2568 เพียงกดแบนเนอร์ “โครงการฟู้ดเดลิเวอรี” ภายในแอปฯ เพื่อยอมรับข้อตกลงและเลือกแพลตฟอร์มที่ต้องการเชื่อมต่อ
หลังจากนั้น แพลตฟอร์มจะจัดส่งไรเดอร์ไปรับสินค้าและบริการลูกค้าตามปกติ โดยเงินที่ได้รับจากการขายจะถูกโอนเข้าระบบของแอปฯ ถุงเงินโดยตรง ทำให้ร้านค้าสามารถตรวจสอบรายได้แบบเรียลไทม์ได้อย่างโปร่งใส
เงื่อนไขและคุณสมบัติร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ
ร้านค้าที่เข้าร่วม คนละครึ่งพลัส ต้องเป็นผู้ประกอบการสัญชาติไทย ซึ่งอาจเป็นร้านอาหาร เครื่องดื่ม ร้านค้าทั่วไป ร้านนวด สปา ทำผม หรือผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ เช่น แท็กซี่ รถตู้ รถสองแถว หรือเรือโดยสาร โดยต้องมีสถานประกอบการที่ตรวจสอบได้
นอกจากนี้ ต้องไม่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ขนาดใหญ่ เช่น ร้านสะดวกซื้อ และไม่เคยถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนจากโครงการรัฐในระยะก่อนหน้า ทั้งนี้ ร้านค้าที่เป็นนิติบุคคลขนาดเล็กสามารถเข้าร่วมได้ หากมีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี และยื่นภาษีถูกต้องตามประมวลรัษฎากร