แรงงานกัมพูชาในเกาหลีใต้กำลังเผชิญภาวะ “ร้าวลึก” จากผลพวงคดีสแกมเมอร์ข้ามชาติ หลังรัฐบาลโสมประกาศมาตรการเข้มตอบโต้คดีลักพาตัวและฆ่านักศึกษาเกาหลีใต้ในกัมพูชา ส่งผลให้นายจ้างหลายรายแสดงอคติ ไม่รับแรงงานชาวกัมพูชาเข้าทำงาน ด้านรัฐบาลพนมเปญออกโรงปฏิเสธข้อกล่าวหา ยืนยันพร้อมให้ความร่วมมือสืบสวนและขออย่าใช้อารมณ์ในการตัดสิน พร้อมเตือนอย่าเหมารวมประชาชนทั้งชาติจากการกระทำของกลุ่มอาชญากรบางกลุ่ม

แรงงานกัมพูชาในเกาหลีใต้ถูกปฏิเสธงาน เหตุอคติคดีคอลเซ็นเตอร์

กระแสความไม่พอใจในเกาหลีใต้ต่อคดีอาชญากรรมข้ามชาติที่มีศูนย์กลางอยู่ในกัมพูชา สร้างแรงสะเทือนรุนแรงต่อแรงงานกัมพูชาในประเทศ นายจ้างจำนวนมากเริ่มปฏิเสธรับแรงงานจากกัมพูชา โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมที่เคยพึ่งพาแรงงานกลุ่มนี้จำนวนมาก

เว็บไซต์ Korea Herald รายงานว่า แรงงานกัมพูชาจำนวนมากรู้สึกถูกดูหมิ่นและเลือกปฏิบัติในที่ทำงาน หลายคนหวั่นว่าความไม่ไว้วางใจนี้จะขยายวงกว้างและส่งผลต่อโอกาสทำงานในระยะยาว ขณะที่แรงงานบางรายกล่าวว่า “เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่กลับต้องเผชิญการเหยียดและการกีดกันจากนายจ้างโดยไม่มีเหตุผล”

ต้นเหตุความขัดแย้ง: จากคดีลักพาตัวถึงแรงกระเพื่อมทางการทูต

วิกฤตแรงงานครั้งนี้มีต้นเหตุมาจากคดีการเสียชีวิตของ ปาร์ค มิน-โฮ นักศึกษาชาวเกาหลีใต้วัย 22 ปี ซึ่งถูกลักพาตัวและทรมานจนเสียชีวิตในกัมพูชาเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ศพของเขาถูกพบในรถกระบะใกล้ภูเขาโบกอร์ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวหลังถูกทำร้ายอย่างรุนแรง

ตำรวจแห่งชาติกัมพูชาตั้งข้อหาฆาตกรรมและฉ้อโกงออนไลน์กับชายชาวจีน 3 คน พร้อมออกหมายจับผู้ต้องสงสัยอีก 2 ราย ขณะที่รัฐบาลเกาหลีใต้ยกระดับมาตรการทางการทูตถึงขั้น “ห้ามเดินทาง” บางพื้นที่ในกัมพูชา เพื่อปกป้องพลเมืองจากอาชญากรรมข้ามชาติที่เพิ่มขึ้น

พนมเปญสวนกลับโซล ย้ำให้สืบสวนอย่างเป็นธรรม

ทัช สุขะ เจ้าหน้าที่ระดับสูงกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา แถลงเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า กัมพูชายินดีให้ความร่วมมือเต็มที่กับเกาหลีใต้ในการสอบสวนคดีดังกล่าว แต่ขอให้ทุกฝ่ายใช้หลักกฎหมาย ไม่ใช่อารมณ์ พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลกัมพูชาไม่ปกป้องอาชญากรและได้ดำเนินคดีต่อกลุ่มสแกมเมอร์จำนวนมากแล้วในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา

คำแถลงนี้มีขึ้นในจังหวะที่กัมพูชากำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากนานาชาติ หลัง สหรัฐฯ และ สหราชอาณาจักร ประกาศคว่ำบาตร เฉิน จื้อ (Chen Zhi) ประธาน Prince Holding Group ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับการหลอกลวงออนไลน์และการใช้แรงงานบังคับ โดยทางการสหรัฐฯ ยึดบิตคอยน์กว่า 127,271 BTC มูลค่ากว่า 15,000 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นการยึดทรัพย์ทางดิจิทัลครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

แรงงานเขมรหวังรัฐบาลเร่งฟื้นความเชื่อมั่น

แรงงานกัมพูชาในเกาหลีใต้เรียกร้องให้รัฐบาลทั้งสองประเทศเร่งคลี่คลายปัญหา เพื่อป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งลุกลามกลายเป็นความเกลียดชังระดับสังคม ขณะเดียวกัน รัฐบาลพนมเปญเตรียมจัดตั้งคณะทำงานร่วมกับฝ่ายเกาหลีใต้ เพื่อสืบสวนคดีอาชญากรรมข้ามชาติและฟื้นฟูภาพลักษณ์แรงงานกัมพูชาในต่างประเทศ

แหล่งข่าวจากกระทรวงแรงงานกัมพูชาระบุว่า มีแรงงานชาวกัมพูชาทำงานในเกาหลีใต้กว่า 50,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานถูกกฎหมายและมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ “แรงงานเหล่านี้ไม่ควรถูกตัดสินจากการกระทำของคนเพียงไม่กี่คน” เจ้าหน้าที่กล่าว