เขื่อนเจ้าพระยาวิกฤต พายุคัลแมกีซ้ำเติมหนัก คาดฝนถล่มยาวถึง 10 พ.ย.

เขื่อนเจ้าพระยาวิกฤตหนัก หลังพายุคัลแมกีส่งผลให้ฝนตกต่อเนื่อง 5–10 พ.ย. เร่งระบายน้ำกว่า 3,000 ลบ.ม./วินาที เตือน 8 จังหวัดท้ายเขื่อนรับมือน้ำเอ่อล้น

สถานการณ์น้ำในภาคกลางเข้าสู่ภาวะวิกฤตอีกครั้ง หลังอิทธิพลของ พายุคัลแมกี ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องระหว่างวันที่ 5 – 10 พฤศจิกายน 2568 ทำให้ระดับน้ำเหนือเพิ่มสูงและไหลบ่าลงสู่ เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ส่งผลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งระบายน้ำลงพื้นที่ตอนล่าง ซึ่งอาจกระทบต่อจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนเฝ้าระวังฝนตกหนักซ้ำในหลายพื้นที่ตอนบนของประเทศ

เร่งระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา รับมือมวลน้ำเหนือไหลทะลัก

จากข้อมูลของ นายฐนโรจน์ วรรัฐประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้มวลน้ำจากพื้นที่ตอนบน โดยเฉพาะจังหวัดกำแพงเพชรและสุโขทัย ได้ไหลลงสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างรวดเร็ว หลังฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลให้การระบายน้ำที่ เขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มขึ้นจาก 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นกว่า 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ขณะเดียวกัน บริเวณลุ่มน้ำสะแกกรังที่อยู่เหนือเขื่อนยังคงมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้จำเป็นต้องเร่งระบายน้ำถึงระดับ 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อป้องกันไม่ให้ระดับน้ำเอ่อท่วมพื้นที่ต้นน้ำ ซึ่งอาจกระทบโดยตรงต่อประชาชนในจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท และจังหวัดตอนล่างของลุ่มน้ำเจ้าพระยา

ฝนตกนอกฤดูซ้ำเติมเขื่อน เตือน 8 จังหวัดท้ายเขื่อนรับมือ

สถานการณ์ฝนที่ตกนอกฤดูในภาคเหนือและภาคกลางตอนบน ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้กับการบริหารจัดการน้ำของประเทศ โดยปกติฝนในช่วงปลายปีจะตกในพื้นที่ภาคใต้ แต่จากอิทธิพลของพายุคัลแมกีและร่องมรสุมที่ขยับขึ้นมาทางตอนบน ส่งผลให้ฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายจังหวัด ซึ่งมีแนวโน้มจะกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อนอย่าง สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี

หน่วยงานด้านน้ำจึงได้ประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยกู้ภัยในแต่ละพื้นที่ เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้ขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง พร้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากการระบายน้ำที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงกว่าตลิ่งในบางจุด

จับตาพายุลูกใหม่อาจซ้ำเติมภาคอีสาน

นอกจากพายุคัลแมกีแล้ว ยังมีรายงานว่า พายุอีกลูกหนึ่งกำลังก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกและอาจส่งผลกระทบทางอ้อมต่อประเทศไทย โดยจะทำให้มีฝนตกเพิ่มในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น อุบลราชธานี ยโสธร สกลนคร และขอนแก่น ซึ่งในปัจจุบัน เขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณน้ำเกือบเต็มความจุถึง 90% แล้ว

หากฝนตกซ้ำในพื้นที่ดังกล่าว อาจทำให้มวลน้ำจำนวนมากไหลลงแม่น้ำชีและแม่น้ำมูล ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำได้รับผลกระทบเพิ่มเติม โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 8–9 พฤศจิกายน 2568 ที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักในหลายจังหวัดทางภาคเหนือและอีสานตอนบน

ศูนย์น้ำฯ เตือนประชาชนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

ศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ ย้ำเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาและพื้นที่ที่อาจได้รับอิทธิพลจากพายุคัลแมกีติดตามข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงนี้ยังมีความแปรปรวนสูง มวลน้ำที่ไหลบ่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเร็วกว่าครั้งก่อน จึงขอให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ


📰 อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ The Mainstream

“ณัฐชา” กดดัน “อนุทิน” แก้วิกฤตปลาหมอคางดำ จี้ฟ้องเอกชนต้นเหตุ

“บิ๊กโจ๊ก” หอบหลักฐาน ตำรวจรับส่วยเว็บพนัน ยื่น กมธ.มั่นคงฯ ตรวจสอบ