ประกาศภัยพิบัติทั้งจังหวัด สงขลาวิกฤตทุกอำเภอ หาดใหญ่สั่งอพยพด่วนแล้ว

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติครบ 16 อำเภอ หาดใหญ่หนักสุดจากน้ำล้นคลองอู่ตะเภา ผู้ว่าฯ สั่งอพยพประชาชนและระดมกำลังทหารช่วยเหลือ ขณะที่โรงพยาบาลหาดใหญ่มีน้ำหนุนเข้าพื้นที่และขอให้ใช้บริการโทรเวช

สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดสงขลาเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 เข้าสู่ระดับวิกฤต หลัง รัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัด ประกาศเขตภัยพิบัติครอบคลุมทั้ง 16 อำเภอ พร้อมสั่งอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงทันที โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ที่ระดับน้ำเพิ่มสูงอย่างรวดเร็วจากน้ำล้นตลิ่งคลองอู่ตะเภา ส่งผลให้หลายชุมชนถูกตัดขาด ขณะที่โรงพยาบาลหาดใหญ่แจ้งมีมวลน้ำหนุนเข้าสู่พื้นที่ภายในและขอให้ประชาชนใช้บริการผ่านระบบโทรเวชแทน

สงขลาวิกฤต ประกาศเขตภัยพิบัติครบทั้ง 16 อำเภอ

รัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมประชุมกับ พล.ต.กรกฎ ภู่โชติ รองแม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อประเมินสถานการณ์อุทกภัยรอบล่าสุด โดยที่ประชุมมีมติประกาศให้ทั้งจังหวัดเข้าสู่เขตภัยพิบัติอย่างเป็นทางการ หลังฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่ 20–23 พฤศจิกายนทำให้ปริมาณน้ำทะลักเข้าท่วมในทุกพื้นที่

รายงานจากกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระบุว่า ขณะนี้มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 243,568 ครัวเรือน หรือมากกว่า 635,000 คน ต้องอพยพแล้วไม่น้อยกว่า 1,224 คน และมีผู้เสียชีวิต 1 คน ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนความรุนแรงของภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในรอบสิบปีของจังหวัดสงขลา

หาดใหญ่–สะเดาอ่วม น้ำล้นคลองอู่ตะเภาท่วมรวดเร็ว

รายงานภาคสนามชี้ว่า พื้นที่อำเภอหาดใหญ่ สะเดา รัตภูมิ จะนะ และนาหม่อม อยู่ในเกณฑ์ “สถานการณ์หนักถึงหนักมาก” โดยหลายหมู่บ้านมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เนื่องจากน้ำจากคลองอู่ตะเภาไหลทะลักล้นตลิ่งเข้าสู่เขตเมืองและพื้นที่ชุมชนหนาแน่น

เฉพาะในอำเภอสะเดาและคลองหอยโข่ง มีรายงานว่าน้ำไหลเข้าท่วมตามเส้นทางหลักและพื้นที่เศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนต้องเร่งขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง ส่วนเขตเมืองหาดใหญ่ ระดับน้ำกำลังขยายวงกว้างและไหลเข้าสู่เขตเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การเดินทางและการขนส่งหยุดชะงักในหลายจุด

อุตุเตือน 23–25 พ.ย. ฝนยังหนัก เสี่ยงน้ำป่า–ดินถล่ม

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ประกาศเตือนว่า ตั้งแต่วันที่ 23–25 พฤศจิกายน จังหวัดสงขลาจะยังคงมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ เสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำและชายเขา แม้ว่ามรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะอ่อนกำลังลงช่วงวันที่ 26–29 พฤศจิกายน แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

ข้อมูลด้านความเสียหายเบื้องต้นพบว่า บ้านเรือนถูกน้ำพัดพังทั้งหลัง 1 หลัง เสียหายบางส่วน 3 หลัง สถานที่ราชการ โรงเรียน วัด ถนนสายหลัก และพื้นที่เกษตรได้รับผลกระทบจำนวนมาก การประเมินความเสียหายจะมีการปรับข้อมูลอย่างต่อเนื่องเมื่อเข้าสู่ช่วงน้ำลด

ผู้ว่าฯ สั่งระดมกำลังเต็มรูปแบบ อพยพกลุ่มเปราะบางออกจากพื้นที่เสี่ยง

รัฐศาสตร์ ชิดชู เปิดเผยว่า คลองอู่ตะเภาการันตีความเสี่ยงสูงสุดในเวลานี้ และระดับน้ำยังคงเพิ่มต่อเนื่อง จึงสั่งให้ทุกหน่วยงานเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำและนำเครื่องจักรหนักเข้าพื้นที่เพื่อเปิดทางน้ำ รวมถึงจัดกำลังจากหน่วยงานทหารและปกครองร่วมกันเคลื่อนย้ายประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำ

จังหวัดได้มอบหมายให้มณฑลทหารบกที่ 42 ทำหน้าที่ศูนย์บัญชาการหลัก เนื่องจากมีความพร้อมด้านยุทโธปกรณ์และกำลังพล พร้อมจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว ได้แก่ ศูนย์ประชุมนานาชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา และทัพเรือภาคที่ 2 เพื่อรองรับผู้ประสบภัย โดยเน้นอพยพกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วยเรื้อรังเป็นอันดับแรก

โรงพยาบาลหาดใหญ่ประกาศเตือน มวลน้ำเข้าพื้นที่ภายใน–ขอใช้บริการโทรเวช

สถานการณ์ในเขตเศรษฐกิจหลักของหาดใหญ่ยิ่งทวีความรุนแรง เมื่อระดับน้ำบริเวณโรงกรองน้ำของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาหาดใหญ่สูงกว่า 3 เมตร ทำให้เครื่องผลิตน้ำประปาต้องหยุดเดินระบบ ส่งผลกระทบต่อการจ่ายน้ำในเขตเมืองและพื้นที่ใกล้เคียงทันที

ในขณะเดียวกัน โรงพยาบาลหาดใหญ่ แจ้งเตือนว่ามีมวลน้ำไหลเข้าสู่บางส่วนของพื้นที่ภายใน พร้อมขอให้ประชาชนที่มีนัดหมายหรือจำเป็นต้องรับบริการ ให้พิจารณาใช้ระบบโทรเวช (Telemedicine) แทน เพื่อลดความเสี่ยงจากการเดินทางและป้องกันภาวะสาธารณสุขล้มเหลวจากภาระผู้ป่วยจำนวนมากในช่วงน้ำท่วม


📰 อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ The Mainstream

ไผ่กอเดียวกัน! “สุชาติ”เคลียร์ใจ“สนธยา” ผนึกฐานเสียงชลบุรี

โต้“บอสกันต์”โผล่ห้องลับ “ทนายวิฑูรย์” ยันข้อมูลเท็จ เล็งดำเนินคดีคนทำเสียหาย