ธรรมนัสประชุมด่วนสั่งเคลียร์สะพานอู่ตะเภา หลังรถกีดขวางเส้นทางลำเลียงอาหารเข้าชุมชน พร้อมเร่งส่งวันละ 2 หมื่นกล่อง ดูแลศูนย์พักพิงและเดินหน้าแผนฟื้นฟูเมืองสงขลา
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการน้ำในสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เรียกประชุมด่วนกับหน่วยงานหลายด้านที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อจัดการปัญหาอุทกภัยหลังสถานการณ์น้ำเริ่มลดลงต่อเนื่อง โดยสั่งการเคลียร์รถที่กีดขวางบนสะพานข้ามคลองอู่ตะเภา ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการลำเลียงอาหารและน้ำดื่มเข้าสู่ชุมชน พร้อมย้ำเร่งเดินหน้าแผนช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง
ระดมทุกหน่วยเคลียร์สะพาน หลังเส้นทางส่งอาหารถูกขวาง
ร.อ.ธรรมนัส เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า แม้ระดับน้ำในหาดใหญ่จะลดลง แต่ทุกหน่วยยังคงวางกำลังและยุทโธปกรณ์ในพื้นที่ เพื่อเร่งการระบายน้ำจากจุดที่ยังมีน้ำท่วมขัง โดยกรมชลประทานได้จัดทีมลงพื้นที่เพื่อประเมินจุดวิกฤตและเตรียมแผนปฏิบัติการณ์ระยะสั้นและระยะยาวอย่างใกล้ชิด ส่วนกองทัพได้รับมอบหมายให้ดูแลศูนย์อพยพฝั่งตะวันออกซึ่งเป็นพื้นที่รองรับประชาชนจำนวนมาก
เขาระบุว่าได้สั่งเคลียร์สะพานข้ามคลองอู่ตะเภาเป็นการเร่งด่วน เนื่องจากมีรถยนต์และรถจักรยานยนต์จำนวนมากจอดกีดขวางการเคลื่อนย้ายอาหารและน้ำดื่มเข้าสู่ชุมชนจนหยุดชะงัก โดยจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายหรือดันรถออกจากพื้นที่ พร้อมขอความเข้าใจจากประชาชนว่าเป็นการดำเนินการเพื่อเปิดเส้นทางช่วยผู้เดือดร้อน ไม่ใช่การทำลายทรัพย์สินแต่อย่างใด
เดินหน้าส่งอาหารวันละ 2 หมื่นกล่อง พื้นที่เขต 8 เริ่มเข้าถึงได้แล้ว
ผู้อำนวยการ ศนภ. ระบุว่า ศูนย์ฯ ได้จัดเตรียมอาหารวันละ 18,000–20,000 กล่อง เพื่อส่งถึงประชาชนที่ยังถูกตัดขาด โดยเน้นพื้นที่เขต 8 ซึ่งระดับน้ำกำลังลดลงจนสามารถใช้รถลำเลียงเข้าไปได้ ขณะเดียวกันยังได้หารือกับเลขาธิการ กสทช. ผู้แทนจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และตัวแทนเครือข่ายผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์ เพื่อแก้ไขปัญหาการสื่อสารในพื้นที่
พื้นที่ตั้งแต่ห้างโลตัสหาดใหญ่ถึงสี่แยกสนามบิน สามารถจ่ายไฟได้แล้ว ทำให้สัญญาณโทรศัพท์ของทรูและเอไอเอสกลับมาใช้งานได้ปกติ ยกเว้นบางจุดที่น้ำยังท่วมสูง ซึ่งต้องรอประเมินความปลอดภัยก่อนเดินหน้าเชื่อมระบบ
ตำรวจภาค 9 ดูแลศูนย์พักพิงเข้ม จัดระเบียบการกลับบ้านกว่า 3 หมื่นคน
ด้านความปลอดภัย ร.อ.ธรรมนัส ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ระดมกำลังพลดูแลศูนย์พักพิงในพื้นที่ โดยเฉพาะศูนย์ใหญ่ที่โรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ ซึ่งมีผู้ประสบภัยมากกว่า 7,000 คน และศูนย์อื่นๆ ที่รองรับผู้อพยพรวมกว่า 20,000–30,000 คน เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบและป้องกันเหตุแทรกซ้อนในช่วงเคลื่อนย้ายประชาชนกลับสู่บ้านเรือน
ตำรวจได้รับมอบหมายให้จัดการจราจร ดูแลจุดเสี่ยง และประสานการเดินทางกลับบ้านของประชาชนอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ หน่วยงานท้องถิ่นได้เร่งเก็บข้อมูลความเสียหายเพื่อเตรียมเข้าสู่แผนฟื้นฟูพื้นที่เมืองสงขลาตามคำสั่งที่รอการมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี
เตรียมแผนฟื้นฟูหลังน้ำลด หวังฟื้นเมืองสงขลาโดยเร็วที่สุด
ฝ่ายบริหารท้องถิ่นรายงานว่า ขั้นตอนฟื้นฟูจะเริ่มทันทีหลังน้ำลดระดับปลอดภัย ทั้งการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน ไฟฟ้า ระบบสื่อสาร ถนน และการจัดสรรงบประมาณเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยจะมีการระดมหน่วยงานรัฐร่วมกับภาคเอกชนเพื่อเร่งฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจหลักของหาดใหญ่ให้กลับมาดำเนินการได้โดยเร็ว


