บิ๊กเล็ก ยังไม่กังวล เหตุชายแดนไทย-เมียนมา หลังมีกระสุนตกข้ามแดนที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–เมียนมาโดยเฉพาะพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ยังไม่น่ากังวล แม้จะมีกระสุนจากการสู้รบฝั่งเมียนมาตกข้ามแดนมายังไทยเป็นระยะ พร้อมยืนยันว่ากองกำลังไทยปฏิบัติตามกฎการใช้กำลังอย่างเคร่งครัด และพร้อมตอบโต้ทันทีหากเกิดการรุกล้ำ ด้านกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานพื้นที่เตรียมแผนรองรับประชาชน หากสถานการณ์บานปลาย
กลาโหมย้ำชายแดนไม่น่าห่วง กองกำลังตั้งรับเข้มตลอดแนว
พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดนตะวันตกของไทยที่ติดกับเมียนมามีปัญหาการปะทะระหว่างกองกำลังรัฐบาลเมียนมากับชนกลุ่มน้อยมาเป็นระยะ ส่งผลให้บางครั้งมีกระสุนหลงเข้ามาในพื้นที่ไทย แต่ยังไม่มีสัญญาณการรุกล้ำหรือเคลื่อนกำลังเข้ามาด้วยความตั้งใจ จึงถือว่ายังคงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้และไม่สร้างความเสี่ยงต่อความมั่นคงภายใน
เขาระบุด้วยว่า แม้สื่อมวลชนมักจับตาฝั่งตะวันออก แต่ฝั่งตะวันตกก็เป็นพื้นที่ที่กองทัพไทยติดตามอย่างใกล้ชิดเช่นกัน ทุกหน่วยบนแนวชายแดนมีการสแตนด์บายและประสานข้อมูลตลอดเวลา หากพบว่ายิงหลุดเข้ามาฝั่งไทยก็จะยิงเตือนตามขั้นตอน เพื่อยับยั้งการลุกล้ำและรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนในพื้นที่

เตรียมพร้อมเต็มกำลัง หากการสู้รบลุกลามสู่แนวชายแดนไทย
รัฐมนตรีกลาโหมยืนยันว่า ฝ่ายไทยมี “กฎการใช้กำลัง” ที่ชัดเจน และสามารถตอบโต้ได้ตามระดับความรุนแรงของเหตุการณ์ โดยทุกการปฏิบัติจะอยู่บนหลักการป้องกันประเทศและรักษาเสถียรภาพตามแนวชายแดน ไม่ใช่การยกระดับความตึงเครียดเพิ่มเติม ซึ่งเป็นแนวทางที่ไทยยึดถือเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกมองว่าเป็นคู่ขัดแย้งในความขัดแย้งภายในเมียนมา
สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ว่าจะรุนแรงขึ้นหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล ระบุว่าในช่วงเวลานี้ยังไม่พบสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความเสี่ยงต่อไทย แต่ทุกปีก็มักเกิดเหตุลักษณะนี้ จึงสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนรับมือไว้ล่วงหน้า รวมถึงความพร้อมด้านมนุษยธรรม หากมีชาวเมียนมาอพยพเข้ามา ซึ่งล่าสุดยังไม่พบการเคลื่อนย้ายเข้ามาฝั่งไทย
รมว.กลาโหมเตรียมลงพื้นที่แม่ฮ่องสอน–ตาก รับฟังสถานการณ์จริง
เพื่อประเมินสถานการณ์ด้วยตนเอง รัฐมนตรีกลาโหม เตรียมลงพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน และ จ.ตาก ซึ่งเป็นแนวชายแดนสำคัญ เพื่อรับฟังรายงานจากหน่วยปฏิบัติการและตรวจสอบความพร้อมของกองกำลัง รวมถึงการซักซ้อมแผนรับมือจากจังหวัดและกระทรวงมหาดไทย
เขาย้ำว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง เพื่อให้รัฐบาลสามารถกำหนดมาตรการป้องกันและรับมือเหตุฉุกเฉินได้รวดเร็ว โดยให้ความสำคัญทั้งด้านความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดนเป็นหลัก


