สถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาปะทุขึ้นอีกครั้งตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 9 ธันวาคม 2568 ส่งผลให้ผู้นำระดับโลก ทั้ง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และ อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ แสดงความกังวลอย่างยิ่ง พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองประเทศยึดตามกรอบหยุดยิงที่ลงนามในกรุงกัวลาลัมเปอร์และร่วมกันหาทางลดความรุนแรงโดยเร่งด่วน ท่ามกลางรายงานการยิงตอบโต้ตลอดแนวชายแดนหลายจังหวัดของกัมพูชา ซึ่งกำลังส่งผลต่อเสถียรภาพด้านความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ยูเอ็นเรียกร้องยุติปะทะและกลับสู่กรอบข้อตกลงหยุดยิง
โฆษกสหประชาชาติเปิดเผยว่า อันโตนิโอ กูเตร์เรส กังวลต่อเหตุปะทะรุนแรงล่าสุดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา โดยย้ำว่าทั้งสองฝ่ายต้องใช้ “ทุกช่องทางที่เป็นไปได้” เพื่อลดความตึงเครียดและกลับสู่ข้อตกลงหยุดยิงที่ลงนามเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมาในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นกรอบสำคัญที่ทั้งสองประเทศรับรองร่วมกันเพื่อยุติความขัดแย้งชายแดนในระยะยาว
สหประชาชาติยังยืนยันว่าพร้อมสนับสนุนความพยายามทุกรูปแบบในการสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงในภูมิภาค พร้อมย้ำว่ากลไกหารือระหว่างไทยและกัมพูชาที่ถูกออกแบบไว้ในข้อตกลงดังกล่าว คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการขยายตัวของความรุนแรง
สหรัฐฯหวังไทย-กัมพูชายึดหยุดยิงเต็มรูปแบบ
สำนักข่าวแชนแนล นิวส์ เอเชีย รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มุ่งมั่นให้สถานการณ์ความรุนแรงยุติโดยเร็ว สหรัฐฯคาดหวังว่าทั้งไทยและกัมพูชาจะปฏิบัติตามพันธกรณีหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ซึ่งถือเป็นกลไกพื้นฐานในการรักษาเสถียรภาพชายแดนและความมั่นคงของภูมิภาค
แหล่งข่าวสหรัฐฯยังระบุว่า วอชิงตันกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเหตุปะทะต่อเนื่องอาจกระทบต่อความร่วมมือด้านความมั่นคงในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ฝ่ายกัมพูชากล่าวหากองกำลังไทยรุกล้ำหลายแนวชายแดน
สื่อกัมพูชารายงานจากข้อมูลแนวหน้าว่าในช่วงก่อนรุ่งเช้าวันที่ 9 ธันวาคม กองกำลังไทยได้ยิงสนับสนุนอย่างหนักและมีการรุกล้ำพื้นที่ตามแนวชายแดนในหลายจังหวัดของกัมพูชา ทั้งจังหวัดพระวิหาร อุดรมีชัย บันเตียเมียนเจย รวมถึงมีรายงานการเคลื่อนกำลังเข้าสู่พื้นที่จังหวัดโพธิสัตว์
รายงานดังกล่าวระบุว่าการยิงปะทะยืดเยื้อตลอดแนวเส้นแบ่งเขตแดนได้ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความหวาดวิตกและต้องอพยพออกจากเขตเสี่ยง โดยฝ่ายกัมพูชาย้ำว่าปฏิบัติการตอบโต้ของตนเกิดขึ้นเพราะจำเป็นต้องรักษาอธิปไตยของชาติ
ฮุน เซนระบุจำเป็นต้องตอบโต้หลังอดกลั้นกว่า 24 ชั่วโมง
ในช่วงเช้าวันนี้ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์ข้อความและภาพผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรงมานานกว่า 24 ชั่วโมงเพื่อรักษาการหยุดยิงและเปิดทางให้ประชาชนอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย แต่ถูก “บีบให้ต้องตอบโต้” ด้วยปฏิบัติการทางทหารตั้งแต่คืนที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้า
ฮุน เซนย้ำว่ากัมพูชายังต้องการสันติภาพและพร้อมเจรจากับฝ่ายไทย แต่จะไม่ยอมให้การละเมิดอธิปไตยใดเกิดขึ้น พร้อมยืนยันว่ากัมพูชาจะปกป้องดินแดนของตนภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและพันธกรณีด้านความมั่นคง
สถานการณ์ชายแดนยังเปราะบาง จับตาความคืบหน้าทางการทูต
แม้จะมีคำเรียกร้องจากทั้งยูเอ็นและสหรัฐฯ แต่สถานการณ์ชายแดนยังอยู่ในภาวะไม่แน่นอน โดยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงในภูมิภาคประเมินว่า หากทั้งสองประเทศไม่เร่งเจรจาแบบทวิภาคี ความรุนแรงอาจขยายตัวและกระทบต่อความมั่นคงในหลายจังหวัดชายแดน รวมถึงเส้นทางการค้าระหว่างประเทศ


