‘ชาญศิลป์’ เล่าบทเรียน “พลิกฟ้า ฝ่าวิกฤต การบินไทย” ชี้โควิดคือโอกาส

ชาญศิลป์ ตรีนุชกร กรรมการและผู้บริหารแผนฟื้นฟูการบินไทย เล่าย้อนความถึงการตัดสินใจรับงานใหญ่ ชี้โควิด-19 คือโอกาสผ่าตัดใหญ่องค์กรยักษ์รักคุณเท่าฟ้า 

วันที่ 5 ตุลาคม 2567 ที่ อาคารมนุษยนาควิทยาทาน วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร สำนักพิมพ์มติชน จัดงาน “Book Launch : พลิกฟ้า ฝ่าวิกฤต การบินไทย” เจาะลึกมุมมอง แนวคิด การบริหารธุรกิจในช่วงที่ต้องบินฝ่าวิกฤตแบบพลิกฟ้า และพลิกวิกฤตกลายเป็นโอกาสใหม่ของการบินไทย โดย “ชาญศิลป์ ตรีนุชกร” กรรมการและผู้บริหารแผนฟื้นฟูการบินไทย (อดีต CEO ปตท.) ดำเนินรายการโดย “ธีรัตถ์ รัตนเสวี”

3 ข้อตัดสินใจก่อนรับตำแหน่ง

ชาญศิลป์กล่าวว่า สนิทและคุ้นเคยกับการบินไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่สำคัญมากกับประเทศในการส่งเสริมเศรษฐกิจ ดูจากช่วงโควิด-19 GDP ประเทศไทยติดลบ แต่เมื่อการบินไทยบินได้นำผู้โดยสารจากต่างประเทศมา 10 กว่าล้านคน GDP กลายเป็นบวก บินไทยสำคัญต่อประเทศมาก ทั้งเรื่องการจ้างงาน การท่องเที่ยว และศิลปวัฒนธรรม

เมื่อ 60 ปีที่แล้ว การบินไทยเป็นสายการบินชั้นนำของเอเชีย ยิ่งใหญ่มาก ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจและอยากรักษาความยิ่งใหญ่ไว้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เรียกให้ไปช่วย จึงถามท่านนายกฯ 3 ข้อคือ

1.การบินไทยยังต้องคงอยู่หรือไม่

2.ถ้าจำเป็นเอาคนออกได้หรือไม่

3.ไม่เป็นรัฐวิสาหกิจได้หรือไม่ เพราะเคยบริหารรัฐวิสาหกิจมาก่อน ซึ่งยุ่งยากและเชื่องช้ามาก ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าได้ จึงมาช่วยฟื้นฟูการบินไทย

“ตัดสินใจยากมาก หลายคนถามว่าคุณเป็นอะไร คุณอยู่สบายแล้ว ทำไมต้องมา…ผมคิดว่าเราเกิดมาบนแผ่นดินนี้ ถ้ามีความรู้ ความสามารถ และผู้ใหญ่บอกว่าคุณต้องมาช่วย ผมทำใจอยู่ในระดับหนึ่ง และเปลี่ยน Mindset ตัวเองก่อน

“ระหว่างนั้นจึงไปหาข้อมูลจากอดีต CEO สุดท้ายแล้วเห็นว่าน่าจะเป็นช่วงที่ต่ำสุดแล้ว…การที่เป็นช่วงต่ำสุดแล้ว คิดว่าต้องมีวันหนึ่งที่ขึ้นมาให้ได้ จะลำบากลำบนทั้งปีทั้งชาติเป็นไปไม่ได้”

ชาญศิลป์กล่าวอีกว่า ได้นำความรู้ความสามารถด้านพลังงานมาช่วยการบินไทย ซึ่งเป็นค่าใช้จ่าย 30-40% ของการบินไทย อีกส่วนคือพนักงาน ประมาณ 13-15% นอกจากนั้น คือการบริหารธุรกิจการบิน ซึ่งปล่อยให้น้อง ๆ ที่มีความถนัดทำไป

“เราก็ยังพอมีแรง มีความสามารถ ก็ต้องไปขออนุญาตคนที่บ้าน ตอนนี้ผ่านมา 5 ปีแล้ว ซึ่งก็มีความสนุก ตื่นเต้น ได้ทีมดีมากที่ช่วยกันซัพพอร์ต…วันที่เดินเข้ามาการบินไทย มาด้วยใจ มาคนเดียว และก็รักการบินไทย”

ชาญศิลป์กล่าวอีกว่า ต้องมาเรียนรู้ ตัวเราเองต้องเเข็งแรง ต้องรู้วัฒนธรรมองค์กรการบินไทยเป็นอย่างไร เดินเข้าไปหา คุย และให้เกียรติ จึงพบว่าเป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ และเราสามารถเอามาร้อยเรียงกันได้

ในการบินไทยมีเพชรเม็ดงามมากมาย ไม่เช่นนั้นจะทำองค์กรที่แข่งขันกับระดับโลกได้อย่างไรในอดีต เพียงแต่เราต้องเป็นลมใต้ปีกดันไป การบินไทยไม่แพ้ใครในโลก ถ้าเราสนับสนุนให้ดีสามารถทำได้

ก่อนหน้านั้น ไปถามอดีตประธานการบินไทย ในชีวิตการทำงานย้ายมา 19 ครั้งใน 38 ปี ในการเข้าไปฟื้นแต่ละบริษัท เราจะมีสกิลบางอย่างที่เอามาร้อยเรียง บางเรื่องที่ไม่เก่ง เช่นเรื่องเครื่องบินก็ต้องเชื่อกัปตัน เพราะไม่ใช่หน้าที่เรา เรามีหน้าที่หาคนที่ดี ๆ และเก่ง ๆ เราต้องสร้างทีม และเชื่อในทีม

จากขาดทุนสะสมสู่กำไร 2.8 หมื่นล้าน

ชาญศิลป์กล่าวว่า ใน 64 ปี ที่ผ่านมาการบินไทยขาดทุนแค่ 12 ครั้ง อาทิ จากเรื่องวิกฤตต้มยำกุ้ง, วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์, น้ำท่วมปี 2554 และความไม่สงบในประเทศ ซึ่งทำให้คนไม่ค่อยเดินทางมา หรือการยึดสนามบินสุวรรณภูมิ การบินทั่วโลกที่โยงใยกันทั้งหมดจึงทำให้เสียเครดิตมาก ทำให้การบินไทยขาดทุนติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 2554-2564 รวมทั้งการลงทุนผิดพลาดเรื่องเครื่องบินด้วย

ตอนแรกที่เข้ามา มีทุนติดลบ 7 หมื่นล้าน มีหนี้ 1.3 แสนล้านบาท มีเจ้าหนี้ 1.3 หมื่นราย หนี้ที่มีเป็นผลของเหตุที่เกิดจาก 10 ปีที่ผ่านมา แม้การบินไทยในอดีตจะกำไรมาตลอด ยกเว้นเมื่อเจอสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ แต่วันนี้การบินไทยกลับมาแล้ว เมื่อปี 2566 มีกำไร 2.8 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ พนักงานยังไม่เคยได้ขึ้นเงินเดือนมา 8-9 ปี แต่วันนี้ได้ขึ้นเงินเดือนแล้ว และมีโบนัส พนักงานจึงมีกำลังใจขึ้นมา

“วันนี้จึงได้เอาบทเรียนทั้งหลายมาทำใหม่ มาปรับ การบินไทยวันนี้ไม่เหมือนการบินไทยสมัยที่เขากล่าวหากันแล้วนะครับ”

ผ่าตัดใหญ่ “โควิดคือโอกาส”

ชาญศิลป์กล่าวว่า เป็นวิกฤตซ้อนวิกฤตสำหรับสายการบินอื่น ๆ ที่เจอทั้งสงครามการค้า และโควิด-19 แต่เป็นโอกาสอย่างยิ่งสำหรับการบินไทย ถ้าไม่มีโควิด-19 การบินไทยไม่เป็นอย่างวันนี้

เนื่องจากประเทศอื่นรัฐบาลมีการสนับสนุนสายการบิน สมมติถ้าสายการบินอื่นบินได้ในช่วงโควิด และการบินไทยบินไม่ได้ขณะที่ยังขาดทุน ไม่มีทางที่การบินไทยจะกลับมาได้เลย เพียงเเต่ตอนนั้นทุกสายการบินหยุดหมดทั้งโลก การบินไทยจึงมีเวลาเข้าห้องไอซียู เหมือนผ่าตัดครั้งใหญ่ อะไรที่ไม่มีประโยชน์เอาออก

“อะไรที่ขายไปได้แล้วเอาเงินสดกลับมาได้ และเราไม่ตาย เราก็ขายหมด เอาเงินสดกลับมา เพราะตอนที่ผมเข้าไป เงินสดแทบจะต่ำสุด เหลือแค่ 5 พันกว่าล้านบาท ซึ่งบริหารไม่เกิน 4-5 เดือนก็หมด รุ่นพี่ที่เป็นรัฐมนตรีบอกว่า อย่าไปเสียดาย เดี๋ยวเสียใจ ขายไปเลย มีแล้วหาใหม่ได้ วันนี้เรามีเงินสดเหลือ 8-9 หมื่นล้านบาท”

สำหรับนักอ่านท่านใดที่สนใจหนังสือ “พลิกฟ้า ฝ่าวิกฤต การบินไทย” เขียนโดย “ชาญศิลป์ ตรีนุชกร” สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่: https://www.matichonbook.com (ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป)

รวมถึงสามารถหาซื้อได้ที่ งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 บูท J02 สำนักพิมพ์มติชน พบกันได้ง่าย ๆ เพียงเข้าประตู Hall 6 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ฮอลล์ 5-7 วันที่ 10-20 ตุลาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น.

ข้อมูล/ภาพ : ประชาชาติธุรกิจ

4 ทรรศนะ ทำไมต้องอ่าน ‘พลิกฟ้า ฝ่าวิกฤต การบินไทย’

เริ่มแล้ว เปิดตัวหนังสือ ‘พลิกฟ้า ฝ่าวิกฤต การบินไทย’ โดย ชาญศิลป์ ตรีนุชกร