เปลืองต้นทุน …มากไปแล้วนะ “หนู”

รัฐบาลอนุทินตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน หลังลงนาม MOU แรร์เอิร์ธกับสหรัฐฯ โดยไม่เปิดเผยรายละเอียด ขณะเวทีเอเปก 2025 ชี้บทบาทใหม่ของไทยบนเวทีโลก แต่ต้นทุนการเมืองภายในกลับเริ่มสั่นคลอน

โลกนี้คือละคร อีกบทละครฉากใหญ่ ณ เมืองคยองจู เกาหลีใต้

กับเวทีรวมดาวผู้นำระดับโลก เอเปก 2025 ฉากจูบปากระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กับ สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ทำบรรดาผู้สัดทัดการเมืองโลก อ้วกแทบพุ่ง

ที่เป็นไฮไลท์สำคัญที่สุดคือ การหารือระดับทวิภาคี ที่ทั่วโลกจับตามองการพบกันระหว่าง “มังกรสี – อินทรีย์ทรัมป์” ที่เมืองปูซาน เกาหลีใต้ นอกรอบการประชุมผู้นำความร่วมมือเอเชียแปซิฟิก(เอเปก) ประชุมเสร็จ โดนัลด์ ทรัมป์ รีบบินกลับกรุงวอชิงตันทันที เพราะทริปการเยือนเอเชีย 3 ประเทศในรอบสัปดาห์เดียว ไฮไลท์อยู่ที่การมาเจอ สี จินผิง นี่แหละ

ข้อตกลงหน้าฉาก 2 ชาติมหาอำนาจ โชว์บทเลิฟซีนหวานชื่น ต่างลดราวาศอก

แต่ในสายตาผู้เชี่ยวชาญการเมืองระหว่างประเทศ นี่เป็นแค่การพักรบสงครามการค้าไป 1 ปี ไม่ได้แก้ไขความขัดแย้งที่เป็นรากฐานสำคัญ

เป็นข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงหายนะร่วมกัน มากกว่าจะหาทางผสานเศรษฐกิจ โดยลดข้อจำกัดด้านความมั่นคงและเอื้อต่อการลงทุนข้ามพรมแดน

ทั้งสองฝ่ายต่างซื้อเวลา เพื่อลดการพึ่งพากันในด้านยุทธศาสตร์ระยะยาว เพราะต่างก็เร่งสร้างระบบเศรษฐกิจอิสระของตนเอง

ซึ่งจะกลายเป็น สงครามเย็นทางเศรษฐกิจ ของจริง..!

โดยเฉพาะการช่วงชิงการครอบครอง แรร์เอิร์ธ แร่หายากของโลก ของสองมหาอำนาจ ที่พร้อมระอุขึ้นมา กลายเป็นประเด็นปัญหาสงครามการค้าโลกได้ทุกเมื่อ

ขณะที่ไทยได้ลงนามกับสหรัฐไปแล้ว จะรักษาสมดุลระหว่าง 2 ประเทศมหาอำนาจอย่างไร นายกฯ“หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล คงต้องดูให้ดีกว่านี้ อย่าให้กลายเป็นการ “ขว้างงูไม่พ้นคอ”

แทนที่ในเวทีสุดยอดผู้นำอาเซียน แต้มกำลังจะพุ่งอยู่ดีๆ นายกฯ“หนู” ดันมาตกม้าตายกับ MOU แรร์เอิร์ธ ลักหลับฉบับเดียว

พอโดนยิงคำถามชุดนี้เข้าไป ถึงกับออกอาการ อึกๆ อักๆ ลามมาถึง มาดามหลังบ้าน จะยิงมุกแซว นักข่าวก๊วนน้ำเงิน ที่คุ้นเคยกันซะหน่อย

แต่โดนตีความเป็นการ “หยิกแกมหยอก” ออกลูกคุกคาม หวังคอนโทรลสื่อในมือ..ว่าห้ามหือ

“นายกฯ“หนู” ก็เลยต้องรีบงัดฟอร์มเทพ บนเวทีโลกกันอีกรอบกับ เอเปก 2025

โอกาสดีๆ ไม่ได้มากันบ่อย เมื่อชาติเจ้าภาพเชิญร่วมโต๊ะดินเนอร์ กับผู้นำ 8 ประเทศ มีจังหวะประชิดตัว โชว์ลีลาการทูตแบบตีซี้กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ขอลดอัตราภาษีการค้าของประเทศไทย

แม้จะเจอเหลี่ยม “เซลส์แมนโลก คาวบอยเจ้าเล่ห์” “ยูจะเอาอะไรมาแลก” แต่นั่นก็ต้องให้เครดิต นายกฯ“หนู” ที่ไม่ยอมทิ้งขว้างโอกาสไป

บวกกับช็อตหารือทวิภาคีกับ อี แช มย็อง (H.E. Mr.Lee Jae Myung) ผู้นำเกาหลีใต้ เจรจาการค้า ตั้งเป้าหมายให้ถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเขตการค้าเสรี (FTA) เป็นเครื่องมือสำคัญ

โดยนายกฯไทยยังได้ขอให้ทางเกาหลีพิจารณาเพิ่มจำนวนแรงงานถูกกฎหมาย ที่จะเข้าไปทำงานในเกาหลี รวมทั้งช่วยดูแลปัญหาที่คนไทย และนักท่องเที่ยวไทยถูกปฏิเสธการเข้าเมืองด้วย

บทบาท “ผู้นำอินเตอร์” เริ่มฉายแววสุกใส

แต่นั่นก็ต้องหันมาดูองค์ประกอบภายใน ที่เริ่มจะเป็นโพรง โดนเจาะเนื้อที่ “เน่าใน” โดยเฉพาะปมร้อนที่กำลังลาม “ทุนเทา” ระบาดหนัก สยายอิทธิพลครอบคลุมไปทุกภาคส่วน

ไม่เว้นแม้แต่ “ศูนย์อำนาจ” ทั้งเบื้องล่าง เบื้องบน

เจอปล่อยกระแส เปิดชื่อย่อ ลากโยงความเกี่ยวพันกับ ขบวนการอาชญากรรมไซเบอร์ – แก๊งสแกมเมอร์ ระดับโลก ที่ลากเอาไทยลงไปคลุกฝุ่นกับ แก๊งโจร จ.ป.ข.

ทำสถานะประเทศไทยสุ่มเสี่ยงตกเป็นอีก 1 ศูนย์กลางโจรเทา เข้าไปทุกที

เพราะรัฐบาลดันไม่เต็ม..ทีนนน ชกไม่สุดหมัด แตะแค่ฉาบฉวย ผลักดันเป็นเพียงวาระร่วมอาเซียน

นายกฯอนุทิน ต้องดันต่อให้บึ้มกระหึ่มโลก

แต่ก็นั่นแหละ หยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ อย่างที่ “ผู้กอง” ธรรมนัส พรหมเผ่า ว่าไว้ “ถ้าเราตรวจสอบทั้งหมด 400 กว่าชีวิตในสภา ทุกคนมีประวัติและอดีตกันหมด จะให้เราซัดกันอย่างนั้นหรือไม่ล่ะ”

ฉายภาพสภาห้าร้อย สภาพันธุ์ทางร้อยพ่อพันแม่ชัดเจน

และภาพรัฐบาลเปื้อนฝุ่น ที่มีแต่พวกสีเทาขมุกขมัว มาผสมกัน

เริ่มจะเปลืองต้นทุน เข้าเนื้อ “คนอุ้ม” เข้าไปทุกที

ไม่ว่า “ลมใต้ปีก” จะสายแข็งขนาดไหน ก็อย่าลืมบทเรียนในอดีตที่ว่า “ยามรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน ยามชังแม้น้ำตาลยังขม” ช่วงเวลาดื่มน้ำผึ้งอันแสนสั้นของรัฐบาล“หนู” นับเวลาถอยหลัง

ตอนที่ใช่..ทำอะไรก็ไม่ผิด แต่ถ้าไม่ใช่ขึ้นมาเมื่อไหร่ ตัวอย่างก็มีให้เห็นแล้วนะ“หนู”


📰 อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ The Mainstream

รัฐบาล ชักศึก(Rare Earth) เข้าบ้าน

ขอบคุณ “ธรรมนัส” ครม. แต่งตั้ง “ธนดล” นั่งข้าราชการการเมือง