วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ยืนยันแคมเปญ “มีเราไม่มีเทา” มุ่งตรวจสอบทุนสีเทาเพื่อความโปร่งใส ไม่ได้โจมตีใครโดยเฉพาะ พร้อมจี้พรรคกล้าธรรมอย่าดิ้นหากไม่เกี่ยวข้อง
วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกระแสวิพากษ์ร้อนจากแคมเปญหาเสียง “มีเราไม่มีเทา” ที่พรรคประชาชนเปิดตัวก่อนหน้านี้ โดยระบุว่าการรณรงค์ดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อตรวจสอบปัญหา “ทุนสีเทา” ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ ไม่ได้พุ่งเป้าโจมตีพรรคใดเป็นพิเศษ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า พรรคกล้าธรรมกลับมีปฏิกิริยาตอบโต้รุนแรง ทั้งที่ไม่ถูกเอ่ยชื่อโดยตรง
วิโรจน์แซะ “อย่าดิ้นเยอะ” ชี้ใครไม่เทาไม่ต้องกลัว
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร กล่าวถึงเสียงวิจารณ์จากพรรคกล้าธรรมภายหลังเปิดตัวแคมเปญ “มีเราไม่มีเทา” ว่า หากไม่เกี่ยวข้องกับทุนเทา ก็ไม่จำเป็นต้องมีปฏิกิริยารุนแรงหรือ “ดิ้น” ให้สังคมจับตามอง พร้อมย้ำว่า พรรคประชาชนตรวจสอบเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทับซ้อนหรือส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ไม่ได้เลือกปฏิบัติทางการเมือง
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า หากพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับแคมเปญดังกล่าว ก็สามารถสร้างแคมเปญของตนเอง เช่น “มีเพื่อไทยมีเทา” เพื่อแสดงจุดยืนต่อประชาชนได้เช่นกัน โดยยืนยันว่าพรรคประชาชนไม่เคยมีนโยบายเอื้อประโยชน์ต่อนายทุนหรือกลุ่มผลประโยชน์ใด ๆ
ยันตรวจสอบตามระบบ ไม่ได้พุ่งเป้า “กล้าธรรม”
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเปิดแคมเปญนี้มีเจตนา “บีบให้เลือกข้าง” ระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคกล้าธรรมหรือไม่ นายวิโรจน์ตอบว่า ตน “งง” ว่าทำไมพรรคกล้าธรรมถึงออกมาโต้ตอบอย่างร้อนแรง ทั้งที่แคมเปญไม่ได้กล่าวถึงพรรคใดโดยตรง พร้อมระบุว่า “ถ้าไม่เทาก็อยู่เฉย ๆ เก็บอาการหน่อย ไม่ต้องสั่นระริกระรี้”
เขาย้ำว่า พรรคประชาชนไม่เคยโฟกัสตรวจสอบเฉพาะพรรคกล้าธรรม แต่ดำเนินการตามหลักการตรวจสอบของระบบรัฐสภา โดยยึดข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจนและโปร่งใส เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่เพียงการตั้งคำกล่าวหาในทางการเมือง
พร้อมจับมือเพื่อไทยอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากพบผิดร้ายแรง
นายวิโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวทางการทำงานในสภา ว่าพรรคประชาชนพร้อมจับมือกับ พรรคเพื่อไทย ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล หากมีหลักฐานชัดเจนถึงการกระทำผิดขั้นร้ายแรงที่กระทบต่อประชาชน โดยจะไม่ใช้เวทีอภิปรายเป็น “เกมการเมือง” หรือช่องทางระบายความแค้นส่วนตัว
นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงกรณี นายกรัฐมนตรี ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่ง ว่าควรแสดงบทบาทจัดการปัญหาทุนเทาอย่างจริงจัง แต่ไม่ควรถูกกล่าวหาว่าเอื้อประโยชน์ในช่วงเริ่มต้นของการบริหารประเทศ พร้อมระบุว่าหากมีการยุบสภาก่อนวันที่ 31 มกราคม 2569 ก็ถือเป็นอำนาจเฉพาะตัวของนายกฯ ไม่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงใด ๆ
ย้ำเป้าหมายหลักเพื่อความโปร่งใส ไม่ใช่โจมตีทางการเมือง
นายวิโรจน์ทิ้งท้ายว่า จุดยืนของพรรคประชาชนคือการผลักดันความโปร่งใสในระบบการเมือง และตรวจสอบปัญหาทุนสีเทาที่ฝังรากอยู่ในโครงสร้างเศรษฐกิจไทย การเปิดแคมเปญ “มีเราไม่มีเทา” เป็นเพียงการสะท้อนความต้องการของประชาชนที่อยากเห็นการเมืองสะอาด ไม่ใช่การชี้เป้าหรือสร้างความแตกแยก พร้อมเรียกร้องให้ทุกพรรค “รับฟังด้วยเหตุผล” และทำงานร่วมกันเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ
